ทางเข้า เว็บตรง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

ลดน้ำหนัก แนวทางที่หลากหลาย เพื่อสุขภาพที่ดี

ลดน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากไม่เพียงช่วยปรับรูปร่างให้ดูดีขึ้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน เช่นการลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวานชนิดที่ 2 แม้จะมีหลายวิธีในการลดน้ำหนัก สิ่งที่สำคัญ คือการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง และยั่งยืนในระยะยาว

ลดน้ำหนัก คืออะไร ลดเพื่ออะไร

ลดน้ำหนัก คือกระบวนการในการลดปริมาณไขมัน หรือมวลกายออกจากร่างกาย โดยการควบคุมอาหาร และเพิ่มการออกกำลังกาย เพื่อให้สุขภาพดีขึ้น ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และช่วยให้รูปร่างดีขึ้น

การลดน้ำหนักอาจทำได้หลายวิธี เช่นการคุมแคลอรีอาหาร การออกกำลังกายแบบ Cardio หรือ Weight training การลดปริมาณน้ำตาล และไขมันที่บริโภค หรือการทำตามวิธีลดน้ำหนักเฉพาะทาง เช่นการทำ intermittent fasting หรือ ketogenic diet [1]

ลดน้ำหนัก วิธีการที่น่าสนใจ ยกตัวอย่าง

วิธีลดน้ำหนัก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และการออกกำลังกายเพื่อลดมวลไขมัน และปรับรูปร่างให้สมส่วน มีหลากหลายวิธี เช่น

  • ทานคลีน เน้นทานอาหารสดใหม่ ไม่มีการปรุงแต่ง และเน้นคุณค่าทางโภชนาการสูง
  • ทานคีโต ลดคาร์โบไฮเดรต ทานไขมัน และโปรตีนเป็นหลัก
  • ออกกำลังกาย ช่วยเผาผลาญแคลอรี และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
  • ลดคาร์บ ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหาร เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน
  • งดน้ำตาล ลดปริมาณการบริโภคน้ำตาล เพื่อลดแคลอรี และควบคุมระดับอินซูลิน
  • งดของทอด หลีกเลี่ยงการทานของทอด เพื่อลดไขมันทรานส์ และแคลอรี
  • ทำIF (Intermittent Fasting) กำหนดช่วงเวลาการทาน อาหารเพื่อควบคุมแคลอรี
  • ดีท็อกซ์ฟาสติ้ง การล้างพิษในร่างกาย ผ่านการงดอาหาร และเน้นดื่มน้ำผลไม้หรือสมุนไพร
  • วอเตอร์ฟาสติ้ง งดอาหารทั้งหมด และดื่มเฉพาะน้ำเปล่า
  • ดรายฟาสติ้ง งดทั้งอาหาร และน้ำทั้งหมด ในช่วงเวลาที่กำหนด
  • ฟาสไข่ การทานไข่เป็นหลัก ในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ

ลดน้ำหนัก อาหารเสริมที่น่าลอง ยกตัวอย่าง

อาหารเสริมลดน้ำหนัก คือผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยสนับสนุนกระบวนการลดน้ำหนัก โดยเพิ่มการเผาผลาญ ลดความอยากอาหาร หรือช่วยสลายไขมัน เช่น

ลดน้ำหนัก งานวิจัย คนอ้วนเสี่ยงโรคอะไรบ้าง

ลดน้ำหนัก

งานวิจัยพบว่าคนที่อ้วน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: การมีดัชนีมวลกาย (BMI) เกิน 30 เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ถึง 49%
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2: คนที่อ้วน มีความเสี่ยงเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าคนปกติหลายเท่า เนื่องจากร่างกายมีความต้านทาน ต่ออินซูลินมากขึ้น
  • โรคมะเร็ง: งานวิจัยระบุว่า การมีน้ำหนักเกิน หรืออ้วน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิด เช่นมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเต้านม
  • โรคหลอดเลือดสมอง: ความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 20% เมื่อดัชนีมวลกาย อยู่ในช่วง 27.5-30 และสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตาม BMI ที่มากขึ้น

ในปี 2022 มีผู้ใหญ่ทั่วโลกประมาณ 2.5 พันล้านคนที่มีน้ำหนักเกิน ในจำนวนนี้ 890 ล้านคนเป็นโรคอ้วน [1]

ลดน้ำหนัก และ BMI ที่ควรรู้ คืออะไร

BMI (Body Mass Index) คือการคำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย ที่ใช้เพื่อประเมินว่า บุคคลนั้นมีน้ำหนักตัว อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ โดยคำนวณจากน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง สูตรคือ BMI = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง² (เมตร)

ค่าที่ได้จาก BMI จะแบ่งเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

  • น้อยกว่า 18.5: น้ำหนักน้อยเกินไป
  • 18.5 – 24.9: น้ำหนักปกติ
  • 25 – 29.9: น้ำหนักเกิน
  • 30 ขึ้นไป: โรคอ้วน

อย่างไรก็ตาม BMI อาจไม่สะท้อนถึงปริมาณไขมัน ในร่างกายได้อย่างแม่นยำเสมอไป เช่นในกรณีของนักกีฬา ที่มีมวลกล้ามเนื้อมาก แต่ก็ยังเป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในการประเมินภาวะโภชนาการ และความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ [2]

ลดน้ำหนัก ที่เหมาะสมตามอายุ ส่วนสูง เพศชายหญิง

น้ำหนักที่เหมาะสม โดยประมาณตามส่วนสูง

  • ผู้ชายที่มีส่วนสูง 160 ซม. น้ำหนักที่เหมาะสมประมาณ 52-64 กก.
  • ผู้ชายส่วนสูง 170 ซม. น้ำหนัก ที่เหมาะสม 60-74 กก.
  • ผู้ชายส่วนสูง 180 cm. น้ำหนักที่เหมาะสม 66-80 กก.
  • ผู้หญิงที่มีส่วนสูง 150 cm. น้ำหนักที่เหมาะสมประมาณ 45-56 kg.
  • ผู้หญิงส่วนสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนัก ที่เหมาะสม 52-64 kg.
  • ผู้หญิงส่วนสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนักที่เหมาะสม 58-70 kg.

ที่มา: How to Calculate [3]

 

สรุป ลดน้ำหนัก ด้วยวิธีที่ถูก ช่วยบรรลุเป้าหมายได้

การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยวิธีการที่ถูกต้องและยั่งยืน จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ถูกต้อง จะช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือการรักษาความสมดุลในชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงการกดดันตนเองมากเกินไป และมุ่งมั่นที่จะมีสุขภาพดีในระยะยาว

อ้างอิง

[1] niddk. (September 2021). Overweight & Obesity Statistics. Retrieved from niddk

[2] hsph. (July 13, 2016). As overweight and obesity increase. Retrieved from hsph

[3] verywellfit. (July 26, 2022). How to Calculate. Retrieved from verywellfit