ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
เศรษฐกิจของซูดาน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและซับซ้อนในช่วงศตวรรษที่ 19 ซูดานเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ฝรั่งเศส ซึ่งในขณะนั้นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการเกษตร การค้าทาส ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซูดานได้เอกราชจากจักรวรรดิอังกฤษ แต่เศรษฐกิจของประเทศยังล้าหลังอยู่มาก
การค้นพบแหล่งน้ำมันดิบ ได้สร้างรายได้มหาศาลให้กับรัฐบาลซูดาน รัฐบาลได้นำรายได้เหล่านี้ ไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น ถนน สะพาน สนามบิน และท่าเรือ
การลงทุนจากต่างประเทศ ก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน การเติบโตทาง เศรษฐกิจของซูดาน การลงทุนจากต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากประเทศในตะวันออกกลางและจีน
ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ความช่วยเหลือจากต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
ซูดานจะเลื่องลือในด้านของศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงมาก เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วย น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ แร่ธาตุต่างๆ เช่น ทองแดง เหล็ก โครเมียม และทองคำ อีกทั้งยังมีพื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่ เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผลที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาลี ข้าวโพด มันสำปะหลัง และฝ้าย
แต่อย่างไรก็ตาม ซูดานยังคงเป็นประเทศที่ยากจน โดยมี GDP ต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี สาเหตุหลักๆ เกิดเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองเช่นเคย รวมถึงความไม่สงบภายในประเทศ ส่งผลให้การลงทุนจากต่างชาติไม่เข้ามากเท่าที่ควร
การสนับสนุนธุรกิจในซูดานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนา เศรษฐกิจของซูดาน เพราะว่าประเทศนี้มีทรัพยากรธรรมชาติ และแรงงานจำนวนมาก แต่ยังมีอัตราการว่างงานสูง เศรษฐกิจไม่มั่นคง การสร้างและสนับสนุนธุรกิจ สามารถช่วยซูดานให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 8 ประการ
ซึ่งรวมถึงการลดความยากจน การลดความหิวโหย การพัฒนาเมืองให้ยั่งยืน มีบางสิ่งที่รัฐบาลซูดาน และองค์กรพัฒนาเอกชนสามารถทำได้ เพื่อสนับสนุนธุรกิจในซูดาน สิ่งเหล่านี้รวมถึง
แนวโน้มและโอกาสในการขยายตลาดส่งออกของซูดาน แบ่งได้เป็น 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
ซูดานเป็นประเทศที่มีพรมแดน ติดกับประเทศในภูมิภาคแอฟริกาหลายประเทศ เช่น เคนยา ยูกันดา เอธิโอเปีย อียิปต์ และซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้ซูดานมีศักยภาพในการขยายตลาด ส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคแอฟริกา จึงทำให้ตลาดส่งออกในมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตลาดส่งออกก็นับว่าเป็นการเติบโตรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างไว มีการต้องการสินเค้า บริการมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้มีนโยบายส่งเสริมการค้า ระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง
ซูดาน และประเทศไทย เป็นประเทศที่อยู่คนละทวีป จึงมีเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซูดานเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็ก ในขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว จะเห็นได้ว่ามีเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่า
และในปี 2565 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของซูดานมีมูลค่าประมาณ 15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ของไทยจะมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถมองทะลุว่าของไทยมีมากกว่าของซูดาน 78 เท่า
ประเทศซูดานเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจสูง อีกหนึ่งประเทศ แต่ปัญหาที่ยังไม่หมดไปก็คือ ปัญหาความยากจนและพัฒนาที่ล่าช้า ที่เกี่ยวเนื่องมาจากทางการเมืองนั่นเอง ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก การลงทุนจากต่างประเทศก็ลดลง ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจของซูดาน ได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ ฟื้นฟูประเทศ ซึ่งก็มีนักลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว รัฐบาลซูดานได้วางเป้าหมาย ที่จะพัฒนาให้มีความยั่งยืนมากกว่านี้
ข้อดี เศรษฐกิจของซูดาน
ข้อเสีย เศรษฐกิจของซูดาน
การลงทุนกับซูดาน เหมาะกับนักลงทุนที่พร้อมรับความเสี่ยงสูง และมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในต่างประเทศ โดยศึกษาข้อมูล หรือวิเคราะห์ความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
จากบทความนี้ สรุปได้ว่า เศรษฐกิจของซูดาน เรียกว่ามีความสมบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติอย่างครบครัน แต่ซูดานก็ยังประสบปัญหาหลายประการที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้
[1] กระทรวงการต่างประเทศ. (November , 2019). สาธารณรัฐซูดาน( not use ). Retrieved from สาธารณรัฐซูดาน( not use ) – กระทรวงการต่างประเทศ mfa.go.th
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.