ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย เหตุใดเสื้อผ้าจึงต่างกันในแต่ละสมัย

Blackcat
, พุธ 27 ธันวาคม 2023

การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีการวิวัฒนาการอยู่เสมอ รวมไปถึงในด้านของการใช้ชีวิตปัจจัยทั้ง 4 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร เครื่องแต่งกาย สถานที่พัก สุดท้ายคือ ยารักษาโรค

นอกจากนี้ยังมีส่วนของความต้องการด้านร่างกาย ด้านจิตใจและสิ่งแวดล้อมสภาพอากาศอีกด้วย จึงก่อเป็นการแปรเปลี่ยนของการแต่งกาย หรือแฟชั่นที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ

สาเหตุหลักของ การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย

เนื่องด้วยการแปรเปลี่ยนของช่วงเวลา การเปลี่ยนผ่านการปกครอง มนุษย์จึงต้องการที่จะควบคุมให้ทุกอย่างเกิดความพอดีและเหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง โดยเกิดจากสิ่งต่อไปนี้

ความต้องการด้านร่างกายและด้านจิตใจ ที่มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย

การดึงดูด การแต่งกายจะแปรเปลี่ยน ตามความต้องการทางด้านร่างกายของมนุษย์ เพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามจึงเกิดเป็นพัฒนาการของเสื้อผ้ามากขึ้น
ศาสนา เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผันของการแต่งตัว ในยุคที่เกิดสงครามที่ยาวนาน ความสัมพันธ์ ของการสู้รบก็เกิดแปรผัน กลายมาเป็นการแลกเปลี่ยนด้านความคิด วัฒนธรรมต่างๆ แม้ว่าทุกอย่างคลี่คลายลงแล้วแต่ผลกระทบนั้น ร้ายแรงพอสมควรจึงเกิดเป็นยุคมืด และทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเริ่มเฟื่องฟูขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16
ความเชื่อธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อหรือขนบธรรมเนียมก็เป็นอีกส่วน ของการเปลี่ยนแปลงด้านการแต่งกายของผู้คนเหมือนกัน เช่นการแต่งกายของชนเผ่าต่างๆที่จะมีการแต่งตัว ตามถิ่นกำเนิดและวัฒนธรรมของตน

การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว

อาชีพหน้าที่การงาน ก็มีส่วนอย่างยิ่งในการแต่งตัวเสื้อผ้า เนื่องด้วยในบางอาชีพนั้นมีชุดฟอร์มสำหรับการทำงาน ซึ่งในแต่ละอาชีพจะมีความแตกต่างกันออกไป
สังคมเศรษฐกิจ ก็เป็นเกี่ยวข้องของการปรับเปลี่ยนของการแต่งกายเช่นกัน ด้วยความต่างของเศรษฐกิจของสังคมทั่วโลก จึงส่งผลต่อเสื้อผ้าและการแต่งกายของแต่ละพื้นที่ อย่างเช่น แถบประเทศไหนที่มีความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจ เสื้อผ้าหรือแฟชั่นของประเทศนั้น ก็จะมีราคาและหรูหราเป็นพิเศษ รวมถึงการแบ่งชนชั้นฐานะด้วย
อากาศ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดแฟชั่นในแต่ละฤดูตัวอย่างเช่น เมื่อเข้าสู่ช่วงที่มีอากาศหนาวก็จะมีเสื้อผ้าสำหรับกันหนาว เมื่อถึงหน้าร้อนผู้คนก็มักจะนิยมใส่เสื้อน้อยชิ้นเพื่อบรรเทาความร้อน เป็นต้น [1]

เอกลักษณ์ของแฟชั่นจาก ญี่ปุ่น และ กรีนแลนด์ กับ การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย

พัฒนาการความเป็นมา ของการแต่งกายจากสองประเทศอย่าง ญี่ปุ่น กับ กรีนแลนด์ ทั้งสองจะมีการเปลี่ยนผันไปอย่างไร จะมีความแตกต่างกันหรือไม่ สำหรับประเทศที่อยู่แถบเอเชีย กับดินแดนทางเหนือสุดของโลก

การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย ของประเทศ ญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นนั้นนับเป็นประเทศ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมมากมาย รวมถึงธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต และชุดกิโมโนก็เป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แม้ระยะเวลาผ่านไปนานเพียงใด

แต่อีกหนึ่งขนบธรรมเนียมที่งดงาม และมีมายาวนานคือชุด ชิโระมุคุ ชุดแต่งงานแบบชินโตดั้งเดิมของฝ่ายเจ้าสาว และชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า สีขาว แสดงถึงความไร้เดียงสา ความสะอาดบริสุทธิ์

มีการตัดเย็บที่ประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด จัดการแต่งกายด้วยผู้เชี่ยวชาญเพราะชุดมีการสวมใส่ที่ยากและมีความซับซ้อน
ตัวชุดจะมีสีขาวทั้งหมดหากมองเผินๆ อาจจะเห็นเป็นชุดเรียบๆ ไม่มีอะไรสะดุดตาแต่หากตั้งใจมองจะเป็นลวดลายที่บรรจงสวยงาม
การแต่งกายจะสวมใส่สีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า จะประกอบด้วย คาเคชิตะ ชุดที่มีปลายทอดยาว คาดด้วย ฟุคุโระโอบิ ลักษณ์เป็นผ้ากว้าง รัดด้วย โอบิอาเกะ ผูกด้วยเชือก โอบิจิเมะ คลุมด้วยเสื้อนอกที่เรียกว่า อุจิคาเคะ สวมหมวกใบใหญ่อย่าง วาตาโบชิ ถุงเท้า ทาบิ และจบท้ายด้วยรองแตะ โซริ
ชุดสีขาวจะแสดงถึงความพร้อมที่จะปรับตัว ให้เข้ากับครอบครัวของเจ้าบ่าว เพราะสีขาวเป็นสีที่สามารถเปลี่ยนไปตามสีที่ต้องการจะใส่ลงไปได้ [2]

คามิกส์ แฟชั่นรองเท้าบูตจาก Greenland

รองเท้าบูตที่มีมาตั้งแต่ครั้งที่ชาวไอซ์แลนด์ เริ่มตั้งถิ่นฐานในช่วงศตวรรษที่ 10 เนื่องด้วยถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ ที่มีอากาศหนาว เสื้อผ้าที่สวมใส่จึงทำมาจากหนังสัตว์เช่น หมีขั้วโลก และแมวน้ำเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายและการทำรองเท้าบูต ก็มีการประยุกต์ใช้และมีการพัฒนาการ จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของประเทศนี้

ผลิตโดยชาวพื้นเมืองของชาวกรีนแลนด์ มีลักษณะกว้างและยาว เบายืดหยุ่นให้ความอบอุ่นได้อย่างดี ทนทาน ขั้นตอนการผลิตมีความประณีตบรรจง
ลวดลายของตัวรองเท้าจะตกแต่งด้วยดอกไม้ เสริมด้วยลูกไม้ แต่งเติมด้วยลูกปัดหลากสี
สีสันของรองเท้าที่สวมจะสามารถบ่งบอกถึง สถานภาพ อายุ รวมถึงภูมิลำเนาได้
เป็นงานฝีมือที่มีการส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นนับเป็นจุดเด่นของประเทศนี้เลย [2]

รีวิวสาเหตุ การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย

ในความคิดเห็นส่วนของเรา สำหรับสาเหตุทางด้านการเปลี่ยนแปลง ของเครื่องนุ่งห่มตั้งแต่สมัยโบราณเรื่อยมาถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะประเทศใด เราเห็นด้วยกับหลายสาเหตุที่เกิดขึ้น ด้วยกาลเวลาที่ผันเปลี่ยน มนุษย์เองก็มีวิวัฒนาการมากขึ้น สิ่งแวดล้อมที่เคยเป็นอยู่ก็เปลี่ยนตามไปด้วย

การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย สมัยก่อนกับสภาพอากาศ

ในสมัยก่อนสภาพอากาศเราคิดว่าบริสุทธิ์กว่าปัจจุบันอย่างมาก ในตอนที่เรายังเด็กเมื่อถึงช่วงอากาศหนาวก็จะหนาวจนผิวแตก จนต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นด้วยการผิงไฟ และใส่เสื้อผ้าหลายๆชั้น เสื้อกันหนาวในช่วงนั้นก็หนานุ่มให้ความอบอุ่นได้ดี

ปัจจุบันกับ การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย กับสภาพแวดล้อมฤดูกาล

ในปัจจุบันสภาพอากาศเปลี่ยนไปจากเดิมมาก อากาศที่ว่าหนาวก็กลายเป็นเพียงลมเย็นๆที่พัดผ่านเราไปเท่านั้น การใส่เสื้อผ้าจากที่หนาๆ ก็กลายเป็นเสื้อแขนยาวทั่วไปใส่เพื่อต้านลมหนาวเล็กน้อยเท่านั้น

สรุป การเปลี่ยนแปลงการแต่งกาย

เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเป็นสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา มีทั้งการนำกลับมาใช้ใหม่ และเกิดสไตล์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เสื้อผ้าเป็นเรื่องที่ในบางครั้งทำให้เราตามไม่ทันเช่นกัน

อ้างอิง

[1] Baanjomyut. สาเหตุที่มนุษย์มีการแต่งกายแตกต่างกัน. Retrieved from Baanjomyut

[2] Freebirdtour. 11 เอกลักษณ์แห่งแฟชั่นต่างแดน. Retrieved from Freebirdtour

Blackcat

หากเป้าหมายคือความสุข แต่ในบางครั้งเราก็ลืมไปว่าความสุขไม่ได้อยู่ที่เป้าหมายเพียงอย่างเดียว แต่ความสุขอยู่ในระหว่างทางต่างหาก ฉะนั้นแล้วผู้เขียนจึงมักจะเก็บความรู้สึกเล็กๆน้อยๆในระหว่างวันมาเป็นความสุขที่ทำให้มีชีวิตและก้าวเดินต่อไป

ผลงาน