ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

สารแคปไซซิน Capsaicin ช่วยลดน้ำหนักอย่างไร

Missile
, พฤหัส 19 กันยายน 2024

สารแคปไซซิน เป็นสารที่พบในพริก และให้รสเผ็ด นักวิจัยหลายคน ได้ทำการศึกษา และพบว่าสารแคปไซซินสามารถมีผลช่วยในการลดน้ำหนัก และจัดการไขมันในร่างกายได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่า สารแคปไซซินช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร และมีประโยชน์อื่นๆ ในด้านใดบ้าง

สารแคปไซซิน สารเคมีจากพริก คืออะไร

ในปัจจุบัน การลดน้ำหนัก เป็นหนึ่งในหัวข้อ ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะการค้นหาวิธีการ ที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ในการลดน้ำหนัก หนึ่งในสารที่เป็นที่สนใจ ในวงการโภชนาการ และสุขภาพ คือ สารแคปไซซิน

ซึ่งสารแคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารเคมี ที่พบได้ในพืชตระกูลพริก เช่นพริกชี้ฟ้า, พริกขี้หนู, และพริกป่น ความเผ็ดที่เกิดจากการบริโภคพริกนั้น เป็นผลมาจากสารนี้ แคปไซซินส่งผลต่อระบบประสาท โดยการกระตุ้นตัวรับความรู้สึก ของความร้อน ทำให้เกิดความรู้สึกเผ็ดร้อน ที่เรารับรู้ เมื่อบริโภคพริก

สารแคปไซซิน กลไกการทำงานของแคปไซซิน

ลดน้ำหนัก กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน สารแคปไซซินมีคุณสมบัติ ในการกระตุ้นการเผาผลาญ พลังงานในร่างกาย การบริโภคพริกที่มีสารแคปไซซินจะเพิ่มอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ระบบเผาผลาญ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คล้ายกับการทำงานของ กรีนคอฟฟี่บีน กระบวนการนี้เรียกว่า thermogenesis ซึ่งหมายถึงการเผาผลาญพลังงาน เพื่อผลิตความร้อน
ลดความอยากอาหาร นอกจากนี้ แคปไซซินยังช่วยลดความอยากอาหารได้เช่นเดียวกับ โครเมียมพิโคลิเนต การวิจัยชี้ให้เห็นว่า การบริโภคสารนี้ สามารถลดการบริโภคอาหารโดยเฉลี่ยลงได้ เนื่องจากแคปไซซิน ช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม และลดความหิว ซึ่งจะทำให้ปริมาณแคลอรี ที่ได้รับในแต่ละวันลดลง
ลดไขมันสะสมในร่างกาย การศึกษาเพิ่มเติม ยังพบว่าสารแคปไซซิน สามารถช่วยในการสลายไขมัน ที่สะสมในร่างกายได้ โดยเฉพาะไขมัน ในช่องท้อง การเผาผลาญไขมันนี้ เกิดขึ้นจากการที่แคปไซซิน กระตุ้นเอนไซม์ ที่เกี่ยวข้องกับการแตกตัวของไขมัน
กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต การบริโภคพริก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลดี ต่อระบบไหลเวียนโลหิต และการลำเลียงสารอาหาร ไปยังเซลล์ต่างๆ รวมถึงช่วยในการขจัดของเสีย และไขมันส่วนเกิน
ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร แคปไซซินยังช่วยกระตุ้นการทำงาน ของกระเพาะอาหาร และระบบย่อยอาหาร ทำให้การเผาผลาญแคลอรี ในอาหารที่เรารับประทาน มีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น และขจัดสารที่ไม่จำเป็น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารแคปไซซิน การศึกษาวิจัยในผู้ที่ BMI สูง

แคปไซซินเป็นสารที่มีชื่อเสียง ในด้านการช่วยลดน้ำหนัก หรือไขมันในร่างกาย เนื่องจากมันช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกาย เปลี่ยนอาหาร และเครื่องดื่มให้เป็นพลังงาน
การเสริมแคปไซซิน สามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญ ทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมัน และลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น โดยแคปไซซินทำงานผ่านการเพิ่มการใช้พลังงานจากออกซิเจน และทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น ส่งผลให้เผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น
การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การบริโภคแคปไซซินเป็นประจำ อาจช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี มากกว่าที่บริโภคเข้าไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ในการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ การวิจัยในผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) สูงเล็กน้อย ยังพบว่าการเสริมแคปไซซิน 6 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยลดไขมัน บริเวณหน้าท้องได้

ที่มา: What Are Capsaicin Supplements [1]

สารแคปไซซิน ปริมาณในพริกแต่ละชนิด

สารแคปไซซินเป็นสารที่ทำให้พริกมีรสเผ็ด โดยปริมาณของแคปไซซินในพริกแต่ละชนิด จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ และส่วนของพริก ที่นำมาวิเคราะห์ จากการวิจัยพบว่า

พริกขี้หนู มีปริมาณแคปไซซินสูงที่สุด ประมาณ 18.2 ppm
พริกเหลือง มีปริมาณแคปไซซินประมาณ 16.7 ppm
พริกชี้ฟ้า มีปริมาณแคปไซซินประมาณ 4.5 ppm
พริกหยวก มีปริมาณแคปไซซินประมาณ 3.8 ppm
พริกหวาน มีปริมาณแคปไซซินน้อยที่สุด ประมาณ 1.6 ppm

ที่มา: ปริมาณสารแคปไซซิน [2]

สารแคปไซซิน การบริโภคแคปไซซินรูปแบบต่างๆ

พริกสด และพริกแห้ง การบริโภคพริกสด และพริกแห้ง เป็นวิธีที่ง่าย ในการรับสารแคปไซซินเพราะพริกเป็นแหล่งของแคปไซซินตามธรรมชาติ โดยพริกในแต่ละชนิด จะมีปริมาณแคปไซซิน ที่แตกต่างกันไป พริกขี้หนู และพริกชี้ฟ้าเป็นแหล่งที่ดีของสารนี้

อาหารเสริมแคปไซซิน แคปไซซินยังสามารถพบได้ในรูปแบบอาหารเสริม ซึ่งถูกออกแบบมา เพื่อให้ได้รับสารในปริมาณที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องรับรสเผ็ดโดยตรง การรับประทานอาหารเสริมแคปไซซินนั้น มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก เมื่อใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย

สารแคปไซซินปริมาณ แคปไซซินต่อวัน ผลข้างเคียง

ปริมาณแคปไซซินที่ปลอดภัย อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการใช้งาน และสภาพร่างกายของแต่ละคน เมื่อใช้ในรูปแบบของอาหารเสริม ปริมาณที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยประมาณ 6 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับช่วงเวลาสั้นๆ นั้นสามารถมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และการลดน้ำหนัก

อย่างไรก็ตาม การใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่นคลื่นไส้ อาเจียน แสบร้อนกลางอก และแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมแคปไซซิน ควรอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ [3]

สรุป สารแคปไซซิน สารจากพริก กระตุ้นการเผาผลาญ

แคปไซซินเป็นสารจากธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ในการกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ลดความอยากอาหาร และช่วยลดไขมันสะสมในร่างกาย การบริโภคพริก หรือผลิตภัณฑ์เสริมแคปไซซิน สามารถเป็นตัวช่วยหนึ่งในการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม การใช้ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง ที่อาจเกิดขึ้น