ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

การเกิด สายรุ้งกินน้ำ ความมหัศจรรย์แสงสีสันบนท้องฟ้า

RPGX
, อาทิตย์ 24 พฤศจิกายน 2024

สายรุ้งกินน้ำ ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เราเห็นบ่อยหลังฝนตก หรือไปเที่ยวน้ำตกก็มองเห็นง่าย ๆ เคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าสายรุ้งเกิดจากอะไร ทำไมถึงเป็นเส้นโค้ง และทำไมถึงมีสีสันสวยงาม เราจะพามาไขความลับเหล่านี้กัน และพาสำรวจดินแดนที่เต็มไปด้วยสายรุ้ง

เส้นการเดินทางสนุกกับ สายรุ้งกินน้ำ

สายรุ้งกินน้ำ (Rainbow) ปรากฏการณ์ทางแสง โดยเกิดจากหารหักเหของแสง การสะท้อนกลับภายใน และการกระเจิงของแสงในหยดน้ำ ทำให้เกิดสเปกตรัมแสง มองเห็นเป็นแถบสีต่าง ๆ บนท้องฟ้า ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นโค้งเหนือพื้นดิน และมีจุดศูนย์กลางเส้นตรงจาก ดวงอาทิตย์ ไปสู่แนวสายตาเป็นมุม 40 – 42 องศา [1]

สายรุ้งกินน้ำ มีกี่แบบ?

การเกิดรุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นด้วยกัน 2 แบบ มีลักษณะแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

รุ้งปฐมภูมิ (Primary Rainbow) : แสงอาทิตย์ตกกระทบทางด้านบนของหยดน้ำ โดยจะมีสีม่วงอยู่ด้านล่าง และมีสีแดงอยู่ด้านบน ทำมุม 40 – 42.5 องศา กับแนวรังสีตกกระทบของหยดน้ำ
รุ้งทุติยภูมิ (Primary Rainbow) : แสงอาทิตย์ตกกระทบทางด้านล่างของหยดน้ำ เกิดการสะท้อนที่ผิวด้านใน 2 ครั้ง โดยจะมีสีแดงอยู่ด้านล่าง และมีสีม่วงอยู่ด้านบน ทำมุม 51 – 54 องศา กับแนวรังสีตกกระทบของหยดน้ำ

จำนวนสีและการมองเห็น

จำนวนสีสเปกตรัม ปกติแล้วมนุษย์เราจะมองเห็น แสงอาทิตย์เป็นสีขาว แต่เมื่อเกิดการหักเหของแสงผ่านหยดน้ำ สามารถแยกสีได้เป็น 7 สี คือ สีแดง สีแสด สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีคราม และสีม่วง โดยมีความยาวคลื่น 400 – 800 นาโนเมตร มองเห็นสีต่างกันตามมุมที่เบี่ยงเบน

การมองเห็นมักเป็นบริเวณน้ำตก หรือน้ำพุ ทั้งวันที่มีอากาศแจ่มใส และหลังฝนตก ทางทิศตะวันตกของตอนเช้า และทางทิศตะวันออกของตอนเย็น จะเห็นรุ้งกินน้ำเป็นเส้นโค้ง แต่แท้จริงแล้วเป็นลักษณะวงกลม เพียงแค่มีพื้นโลกบังไว้อีกครึ่งหนึ่ง โดยมีจุดกลางเรียกว่า “แอนตี้โซล่าร์” ที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 180 องศา [2]

เรื่องของ สายรุ้งกินน้ำ ความสวยงามนอกห้องเรียน

รู้หรือยัง? สายรุ้งที่เราเห็นกันมีวันเฉลิมฉลองด้วย คือ “วันค้นหาสายรุ้งแห่งชาติ” (National Find A Rainbow Day) ของสหรัฐอเมริกา ทุกวันที่ 3 เมษายน ของทุกปี จัดแสดงงานศิลปะจากธรรมชาติ เพื่อเป็นแสงแห่งความหวัง สาดส่องไปทั่วท้องฟ้า และเป็นแรงบันดาลใจให้กับบทกวี ตำนาน และเสียงดนตรี

พาท่องเที่ยวดินแดนสายรุ้ง

โลกของเราเป็นเพียงดาวเคราะห์เดียว ที่มีการเกิด ปรากฏการณ์ ของรุ้งกินน้ำตามธรรมชาติ โดยเฉลี่ยแล้วเราสามารถมองเห็นได้ ภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่พบว่าสายรุ้งที่มีระยะเวลานานที่สุดในโลก ประมาณ 8 ชั่วโมง 58 นาที (เวลา 06.57 – 15.55 น.) ถูกพบเห็นเมื่อปี พ.ศ. 2560 อยู่บนภูเขาในไทเป ประเทศไต้หวัน

นอกจากนั้น เกาะคาไว รัฐฮาวาย ในสหรัฐอเมริกา มีการเกิดรุ้งกินน้ำมากที่สุดในโลก เพราะว่าเป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับ 4 ของเกาะทั้งหมด ที่มีผิวน้ำทะเลอุ่น สภาพแวดล้อมเขียวขจี ปกคลุมไปด้วยภูเขาสูง แสงแดดส่องถึง และฝนตกชุก จนได้รับการขนานนามว่า “รัฐแห่งสายรุ้ง” [3]

คำถามพบบ่อยกับ สายรุ้งกินน้ำ

สีรุ้งสีแรกคือสีอะไร : สีแดง โดยเป็นสีชั้นนอกสุด
แสงเดินทางมาเป็นเส้นในลักษณะใด : แสงเดินทางเป็นเส้นตรง แต่เกิดการหักเหเมื่อผ่านหยดน้ำ ทำให้การมองเห็นสายรุ้งเป็นเส้นโค้ง เพราะว่าแสงอาทิตย์ส่องทะลุละอองน้ำ
เราจะเห็นรุ้งกินน้ำเต็มวงได้ยังไง : รุ้งกินน้ำแบบเต็มวง เราจะมองเห็นได้จากมุมสูงเท่านั้น อย่างตอนนั่งเครื่องบิน เพราะหากอยู่บนพื้นโลก เราจะเห็นรุ้งเป็นส่วนโค้ง หรือครึ่งวงกลมเสมอ
รุ้งกินน้ำเกิดตอนเที่ยงได้ไหม : ช่วงเวลาเที่ยง ดวงอาทิตย์จะอยู่เหนือศีรษะของเราพอดี หมายความว่าไม่มีส่วนใดของท้องฟ้า ที่จะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ แม้ว่าเราจะพยายามมองหาสายรุ้ง แต่ด้วยแสงสว่างจ้า จะไม่สามารถมองเห็นได้เลย
รุ้งกินน้ำเกิดตอนกลางคืนได้ไหม : สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ค่อนข้างยาก เนื่องจากการเกิดรุ้งกลางคืน จะต้องอาศัยแสงจาก ดวงจันทร์ หรือเรียกว่า รุ้งจันทรา (Moonbow) และแสงจันทร์มีความสว่าง น้อยกว่าแสงอาทิตย์ในตอนกลางวัน

สรุป สายรุ้งกินน้ำ “Rainbow”

สายรุ้งกินน้ำ ปรากฏการณ์ของแสง ที่เกิดการหักเหแสงจากดวงอาทิตย์ ผ่านละอองน้ำในอากาศ และกระเจิงออกมาเป็นแถบสีต่าง ๆ เราจะมองเห็นรุ้งเป็นเส้นโค้งสวยงาม ในวันอากาศแจ่มใสและหลังฝนตก สามารถเห็นได้จากทุกแห่งทั่วโลก และเกิดบ่อยด้วยเช่นกัน