ทางเข้า เว็บตรง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

ทานคีโต (Ketogenic) ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร

ทานคีโต

ทานคีโต หรือการทานอาหารแบบ Ketogenic ที่เราเรียกสั้นๆว่า “คีโต” กำลังเป็นที่นิยมมาก ในวงการสุขภาพ และการลดน้ำหนัก แนวทางการทานอาหารนี้ มีจุดเด่นที่การจำกัดคาร์โบไฮเดรตอย่างมาก โดยจะมุ่งเน้นการบริโภคไขมันเป็นหลัก เป็นหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนัก ที่มีประสิทธิภาพ

ทานคีโต หลักการพื้นฐานของ Keto

ทานคีโต

การทานคีโต จะประกอบด้วยการรับประทานไขมันเป็นหลัก ประมาณ 70-75% ของปริมาณแคลอรีในแต่ละวัน โปรตีนประมาณ 20-25% และคาร์โบไฮเดรตเพียง 5-10% ซึ่งการจำกัดคาร์โบไฮเดรตอย่างเข้มงวดนี้ ทำให้ร่างกาย ไม่มีแหล่งพลังงานจากกลูโคส (น้ำตาล) จึงเริ่มนำไขมันที่สะสมมาใช้เป็นพลังงาน

โดยกระบวนการนี้ จะผลิตสารที่เรียกว่า “คีโตน” (Ketones) ในสภาวะคีโตซิส ไขมันที่สะสมในร่างกาย จะถูกย่อยสลาย และเปลี่ยนเป็นสารคีโตนในตับ ซึ่งสารคีโตนนี้ จะถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน สำหรับสมอง และอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย แทนกลูโคส [1]

ทานคีโต การเข้าสู่ภาวะ Ketosis คืออะไร

ภาวะคีโตซิส เป็นภาวะที่ร่างกาย เปลี่ยนการเผาผลาญพลังงาน จากการใช้กลูโคส เป็นการใช้ไขมัน ในภาวะปกติ ร่างกายจะใช้กลูโคสจากคาร์โบไฮเดรต ที่เราบริโภคเป็นแหล่งพลังงานหลัก แต่เมื่อเราลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตลง จนต่ำมาก กลูโคสในร่างกายจะหมดไป ร่างกายจึงเริ่มใช้ไขมันที่เก็บสะสมไว้

นำมาสร้างเป็นพลังงาน กระบวนการนี้ จะเกิดขึ้นหลังจากการจำกัดคาร์โบไฮเดรต อย่างน้อย 2-4 วัน และทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทานคีโต ข้อดี ช่วยลดน้ำหนักอย่างไร

  • การเผาผลาญไขมันมากขึ้น เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะคีโตซิส การเผาผลาญไขมัน จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากร่างกาย ไม่มีแหล่งพลังงานอื่นที่สำคัญ ผลคือไขมันที่สะสมในร่างกาย จะถูกนำมาเผาผลาญเป็นพลังงาน การลดไขมันนี้ จะส่งผลโดยตรง ต่อการลดน้ำหนัก
  • ลดความอยากอาหาร การทานไขมันในปริมาณที่สูง มีส่วนช่วยให้รู้สึกอิ่มนานกว่าเดิม ทำให้การทานอาหารมื้อน้อยลง และลดการทานของจุกจิก เมื่อระดับน้ำตาลในเลือด มีความเสถียร การลดลงของน้ำตาลในเลือด ที่เร็วและคงที่ จากการทานคาร์โบไฮเดรตน้อยลง จะช่วยลดความหิวโหย หรือความอยากอาหาร
  • รักษามวลกล้ามเนื้อ โปรตีนที่ทานในคีโต มีความสำคัญ ในการรักษามวลกล้ามเนื้อ ร่างกายไม่จำเป็นต้องย่อยกล้ามเนื้อ เป็นพลังงาน เพราะได้รับพลังงานจากไขมันแทน ซึ่งการรักษามวลกล้ามเนื้อนี้ มีส่วนสำคัญในการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้การลดน้ำหนัก มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในระยะยาว
  • การควบคุมระดับอินซูลิน การทานคีโตช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยลง อินซูลินที่เป็นตัวกระตุ้น การเก็บไขมัน ก็จะลดลงไปด้วย นอกจากนี้ การลดระดับอินซูลิน ยังช่วยลดการสะสมของไขมัน และทำให้การเผาผลาญพลังงานจากไขมัน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การขับน้ำออกจากร่างกาย ในช่วงเริ่มต้นของการทานคีโต ร่างกายจะขับน้ำส่วนเกินออกมาก เนื่องจากการทานคาร์โบไฮเดรตที่ลดลง ทำให้ร่างกายไม่เก็บน้ำไว้มากเท่าที่เคย เป็นผลให้เกิดการลดน้ำหนัก จากการสูญเสียน้ำในช่วงแรก ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่เริ่มทานคีโต รู้สึกว่าน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงแรก

ทานคีโต งานวิจัยและผลลัพธ์หลัก

บทความในวารสาร British Journal of Nutrition การศึกษาวิเคราะห์ meta-analysis ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการทดลองแบบสุ่มที่ควบคุม เพื่อเปรียบเทียบผลของการทานอาหารคีโตเจนิค กับการทานอาหารไขมันต่ำ ในแง่ของการลดน้ำหนักระยะยาว โดยข้อมูลสำคัญจากการศึกษา มีดังนี้

  • การศึกษา: งานวิจัยได้ใช้ฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อรวบรวมการทดลอง ที่มีผู้เข้าร่วมอายุมากกว่า 18 ปี ที่ได้รับการสุ่ม ให้อยู่ในกลุ่มที่ทานอาหารไขมันต่ำ (LFD) หรืออาหารคีโตเจนิค (VLCKD) โดยติดตามผลลัพธ์ ในระยะเวลามากกว่า 12 เดือน ผู้เข้าร่วมทั้งหมด มีดัชนีมวลกาย (BMI) เฉลี่ยมากกว่า 27.5 ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักเกิน
  • ผลลัพธ์หลัก: การทานอาหารคีโตเจนิค นำไปสู่การลดน้ำหนัก มากกว่าอาหารไขมันต่ำ อย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาสั้นๆ (น้อยกว่า 1 ปี) แต่เมื่อวิเคราะห์ในระยะยาว (มากกว่า 1 ปี) ความแตกต่างในการลดน้ำหนักระหว่างสองกลุ่ม ไม่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน
  • ผลลัพธ์รอง: นอกจากน้ำหนักที่ลดลงแล้ว การวัดค่าอื่นๆ เช่นระดับไขมันในเลือด, ค่าความดันโลหิต, และระดับน้ำตาลในเลือด ก็ได้รับการวิเคราะห์ด้วย แต่ไม่พบผลที่แตกต่างกันมากนัก ระหว่างสองกลุ่ม

ที่มา: Very-low-carbohydrate [2]

 

ทานคีโต ข้อควรระวัง Keto Flu

แม้ว่าการทานคีโต จะมีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก แต่ก็มีข้อควรระวัง ที่ควรพิจารณา เช่นการขาดสารอาหารบางชนิด เนื่องจากการจำกัดคาร์โบไฮเดรต การเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ จากการทานไขมันอิ่มตัวที่มากเกินไป

และอาการที่เรียกว่า “Keto Flu” ที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย และมึนหัวในช่วงแรก ของการเริ่มทานคีโต ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ก่อนเริ่มทานอาหารคีโต [3]

ทานคีโต ใครที่ไม่ควรใช้วิธีคีโตเจนิค

การทานอาหารคีโตเจนิค อาจไม่เหมาะสมสำหรับบางกลุ่ม ไม่เหมือนกับการ ทานคลีน ที่สามารถทำได้ทุกคน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ หรือข้อจำกัด ที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ โดยกลุ่มคนที่ไม่ควรทานคีโต ได้แก่

  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับตับ หรือไต: การทานคีโตที่มีไขมันสูง อาจเพิ่มภาระให้กับตับและไต ซึ่งอาจทำให้โรคที่เกี่ยวกับอวัยวะเหล่านี้ รุนแรงขึ้นได้
  • ผู้ป่วยเบาหวานประเภท 1: การทานคีโตสามารถช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่สำหรับผู้ที่มีเบาหวานประเภท 1 อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ ketoacidosis ซึ่งเป็นภาวะ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
  • สตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร: การทานอาหาร ที่มีการจำกัดคาร์โบไฮเดรต อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก และอาจทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็น
  • ผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร: การทานไขมัน ในปริมาณมาก อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับการย่อยอาหาร เช่นโรคถุงน้ำดี หรือโรคลำไส้อักเสบ
  • ผู้ที่มีภาวะทางจิตเวชบางชนิด: การเปลี่ยนแปลงระดับสารเคมีในสมอง ที่เกิดจากการเข้าสู่ภาวะคีโตซิส อาจส่งผลกระทบ ต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต เช่นโรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวล

สรุป ทานคีโต วิธีลดน้ำหนัก มีประสิทธิภาพ

การทานคีโตเป็นวิธีการลดน้ำหนัก ที่มีประสิทธิภาพ โดยการเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญในร่างกายให้เน้นการใช้ไขมันเป็นพลังงาน เผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมอยู่ก่อน และการควบคุมระดับอินซูลินที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การทานคีโตยังคงมีความเสี่ยง จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มทาน

อ้างอิง

[1] healthline. (November 7, 2023). The Ketogenic Diet. Retrieved from healthline

[2] cambridge. (May 7, 2013). Very-low-carbohydrate. Retrieved from cambridge

[3] chula. (March 16, 2022). กิน “คีโต” อย่างเข้าใจ. Retrieved from chula