ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ทะเลแคสเปียน ไม่ใช่ทะเลสาบธรรมดา แต่เป็นถึงทะเลสาบน้ำเค็ม ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีอาณาเขตติดกับ 5 ประเทศ นับว่าเป็นแหล่งน้ำ รวมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหาร และสัตว์หลายชนิด เราพามาสำรวจความพิเศษ ของทะเลสาบแคสเปียนกันในบทความนี้
ทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) ทะเลสาบน้ำเค็ม ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เป็นทะเลภายในปิดกั้นระหว่าง ทวีปยุโรป และ ทวีปเอเชีย มักถูกเรียกเป็นทะเลสมบูรณ์ (แหล่งน้ำเค็มขนาดใหญ่ เกือบเป็นมหาสมุทร) โดยมีพรมแดนติดต่อกับ 5 ประเทศอย่าง รัสเซีย คาซัคสถาน เติร์กเมนิสถาน อิหร่าน และอาเซอร์ไบจาน [1]
อดีตทะเลแคสเปียนเคยเชื่อมกับ ทะเลดำ รวมถึงทะเลรอบนอก แต่การเชื่อมนั้นได้หยุดชะงักไปตลอดหลายล้านปี และมีการก่อตัวของเทือกเขาโกเปตดาก กับเทือกเขาคอเคซัส จึงทำให้ทะเลแยกตัวออกจากกัน เกิดเป็นทะเลแคสเปียน มาตั้งแต่ 30 ล้านปีก่อน และคาดว่ามนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อ 75,000 ปีก่อน
แคสเปียนทะเลขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 371,000 ตารางกิโลเมตร ความลึกเฉลี่ย 211 เมตร สามารถลึกสูงสุด 1,025 เมตร และปริมาณน้ำทั้งหมด 78,200 กิโลเมตร สำหรับความเค็ม มีปริมาณเกลือประมาณ 1.2% (มากกว่าค่าเฉลี่ยเกลือมหาสมุทรโลก 3 เท่า) คิดเป็นอัตรา 1 ใน 3 ของเกลือทะเลทั่วไป
ภูมิภาคทะเลแคสเปียน แบ่งเป็น 3 ภูมิภาค คือ แคสเปียนเหนือ แคสเปียนกลาง และแคสเปียนใต้ โดยมีภูมิอากาศแตกต่างกัน ตั้งแต่แบบทะเลทรายหนาวเย็น แบบกึ่งแห้งแล้งหนาวเย็น และแบบทวีปชื้น โดยทางตอนเหนือของทะเล มักเป็นอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน และอากาศแบบกึ่งร้อนชื้น
ทะเลสาบแคสเปียน เป็นทะเลที่ไม่มีทางออกสู่มหาสมุทร จึงมีหมู่เกาะอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสถานที่ที่แนะนำสำหรับนักเดินทางอย่าง เมืองบากู (Baku) เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน อยู่บนชายฝั่งทะเลแคสเปียน รวมกิจกรรมทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมสำคัญ
อีกสถานที่ห้ามพลาดกับ เกาะนาร์กิน (Nargin Island) หมู่เกาะในทะเลแคสเปียน อยู่ห่างจากเมืองบากูประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นเกาะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่เคยถูกใช้เป็นฐานทัพทหาร และพลเรือนห้ามเข้า แต่นับตั้งแต่การล่มสลาย ของสหภาพโซเวียต ก็ได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม [2]
ทะเลและมหาสมุทร ที่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์กว่า 850 ชนิด และพืชมากกว่า 500 ชนิด และมีชื่อเสียงเรื่องของไข่ปลาคาเวียร์ และอุตสาหกรรมน้ำมัน ซึ่งในปัจจุบันระบบนิเวศ เริ่มทรุดโทรมลง โดยมีการคาดการณ์ว่า ช่วงศตวรรษที่ 21 ความลึกของทะเลจะลดลงต่อเนื่อง จากสภาวะโลกร้อน และอาจกลายเป็นทะเลทราย
ใครจะรู้ว่าทะเลสาบแคสเปียน ที่มีผืนน้ำกว้างใหญ่ มองออกไปไกลสุดสายตา กำลังประสบปัญหาน้ำทะเลลดลงอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ช่วงอันตราย! โดยในช่วงท้ายของศตวรรษที่ 21 ระดับน้ำทะเลจะลดลง 9 – 18 เมตร คือความลึกที่สูงกว่าบ้านทั้งหลัง และจะสูญเสียปริมาณน้ำทะเลมาก 25%
นั่นหมายถึงจะมีพื้นดินเพิ่มขึ้นเป็น 93,000 ตารางกิโลเมตร เทียบเท่ากับประเทศโปรตุเกส ซึ่งภาวะโลกร้อนเป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ทะเลแคสเปียน เกิดวิกฤตระดับน้ำลด และน้ำอุณหภูมิสูง แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อสัตว์ และสังคมมนุษย์บริเวณชายฝั่ง จึงต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน [3]
ทะเลแคสเปียน ทะเลน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 371,000 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นทะเลปิดกั้นระหว่างยุโรปกับเอเชีย ถูกแยกออกจากทะเลดำประมาณ 30 ล้านปีก่อน กลายเป็นทะเลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ทั้งแหล่งพักอาศัย สถานที่ท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้า
[1] wikipedia. (November 23, 2024). Caspian Sea. Retrieved from wikipedia
[2] patourlogy. (May 15, 2023). พาไปรู้จักและท่องเที่ยวในทะเลแคสเปียน. Retrieved from patourlogy
[3] kindconnext. (April 26, 2021). วิกฤตทะเลสาบแคสเปียน. Retrieved from kindconnext
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.