ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ครีมวิตามินอี มักเป็นส่วนประกอบหลัก ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายชนิด ด้วยคุณสมบัติ ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพ วิตามินอีสามารถช่วยปกป้องผิว จากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่างๆ ซึ่งทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดี
วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกาย จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร และสามารถทำลายเซลล์ได้อนุมูลอิสระเกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกาย หรือมลพิษ แสงแดด ควันบุหรี่
การได้รับวิตามินอีช่วยปกป้องเซลล์ ชะลอการเกิดริ้วรอย รักษาความชุ่มชื้นของผิว วิตามินอีช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรค และมีบทบาทในการขยายหลอดเลือด ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่อาจเป็นอันตราย วิตามินอีพบได้ในอาหารหลากหลายชนิด เช่นน้ำมันพืช ถั่ว และผักใบเขียว [1]
งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี แสดงผลลัพธ์ในการปกป้องผิวจากรังสี UV และลดการอักเสบ ในการศึกษาในมนุษย์ พบว่าการทาวิตามินอีช่วยลดการเกิด erythema ลดปฏิกิริยา Oxidation ของไขมันในผิวหนัง และลดการตอบสนองของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ที่เกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสรังสียูวี
การศึกษาหนึ่งที่ดำเนินการ ในกลุ่มผู้ป่วยหลังการผ่าตัด โดยใช้วิตามินอี เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็น พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ (ประมาณ 90%) รายงานว่าแผลเป็นไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างมากนัก เมื่อใช้วิตามินอี และ 33% รายงานว่ามีอาการแพ้
การทดลองในกลุ่มผู้ป่วยหลังการผ่าตัด ทำให้เกิดข้อสรุปว่า การใช้วิตามินอีบนผิวหนังอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากมีอัตราการแพ้ในบางกรณี อย่างไรก็ตาม มีการทดลองอื่น ที่พบว่าวิตามินอี สามารถซึมลึกลงไปในชั้นผิวหนัง และช่วยในกระบวนการ รักษาบาดแผลได้ [2]
ปริมาณวิตามินอีที่แนะนำ ในครีมทาผิวอยู่ที่ 0.1% ขึ้นไป ซึ่งเพียงพอ ที่จะเพิ่มระดับวิตามินอีในผิวได้ โดยครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี จะช่วยในการรักษาความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากความเสียหาย ที่เกิดจากรังสียูวีและช่วยลดเลือนริ้วรอย
ปริมาณวิตามินอีสูงสุดในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แนะนำไม่ให้เกิน 5% เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ที่จะเกิดการอุดตันของรูขุมขน หรือทำให้ผิวมันมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมัน และผิวที่เป็นสิวง่าย [3]
แม้ว่าวิตามินอีจะเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง แต่การใช้ในปริมาณมากเกินไป หรือการใช้ในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นควรเริ่มต้นใช้ อย่างระมัดระวัง การป้องกันควรทดลองใช้กับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนการใช้งานเต็มรูปแบบ หากเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ และปรึกษาแพทย์
ครีมวิตามินอีเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิว ให้มีสุขภาพดี ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์ ด้วยคุณสมบัติ ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ การลดรอยแผลเป็น และปกป้องผิวจากมลภาวะ อย่างไรก็ตาม ควรใช้อย่างถูกวิธีและในปริมาณที่เหมาะสม
[1] nutritionsource. (2024). Vitamin-E. Retrieved from nutritionsource
[2] lpi. (February 2012). Vitamin-E and Skin Health. Retrieved from lpi
[3] thedermreview. (August 17, 2020). Should You Use a Vitamin-E Cream. Retrieved from thedermreview
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.