ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ไททันโนโบอา สูญพันธุ์เพราะอะไร พามาไขข้อสงสัย กับเรื่องราวของอสุรกายสัตว์เลื้อยคลาน ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในยุคพาลีโอซีน นักล่าที่ยิ่งใหญ่นับหลายล้านปีมาแล้ว ทั้งการค้นพบฟอสซิล วิวัฒนาการ สาเหตุการสูญพันธุ์ และสายพันธุ์ร่วมที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
ไททันโนโบอา (Titanoboa) งูขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จัดอยู่ใน รายชื่อ สัตว์สูญพันธุ์ โดยอยู่ในวงศ์ Boidae วงศ์เดียวกับงูเหลือม และงูอนาคอนดาทั้งหมด เคยมีชีวิตอยู่ในยุคพาลีโอซีน (Paleocene) ประมาณ 60 – 58 ล้านปีก่อน ซึ่งถูกค้นพบซากฟอสซิลครั้งแรก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เป็นกระดูกจำนวน 186 ชิ้น และได้รับการตั้งชื่อว่า “ไททาโนโบอา เซอร์เรโฮเนนซิส” [1]
งูยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบ สามารถเจริญเติบโตได้ มีขนาดลำตัวยาวถึง 12.8 – 14.3 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 730 – 1,135 กิโลกรัม โดยมีวิวัฒนาการหลังจากการสูญพันธุ์ของ ประวัติ ไดโนเสาร์ (ช่วงยุคครีเทเชียส – ยุคพาลีโอซีน) เพราะนับว่างูโบอา เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น
กระดูกสันหลังของไททันโนโบอา มีมากกว่า 250 ชิ้น ค่อนข้างแข็งแรงและกว้างมาก หากมองจากด้านหน้า งูจะมีรูปร่างเป็น 5 เหลี่ยม มีฟันที่โค้งงอเข้าด้านในไปทางด้านหลัง เพื่อล็อกเหยื่อเอาไว้ ส่วนขากรรไกรยืดหยุ่นได้ดี และกะโหลกศีรษะ มีความใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิต ในหมู่เกาะแปซิฟิก และมาดากัสการ์อีกด้วย
ไททันโนโบอา สูญพันธุ์เพราะอะไร การค้นพบฟอสซิลงูยักษ์ ในประเทศโคลอมเบีย แสดงให้เห็นถึงว่าพวกมัน เป็นสัตว์เลือดเย็น มีอุณหภูมิภายในร่างกายสูง แหล่งอาศัยอยู่ในหนองน้ำเขตร้อน อากาศอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ย 30 – 33 องศาเซลเซียส และมีการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
แต่ทว่าเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม อากาศเริ่มเย็นลง (ทำให้ขนาดตัวลดลง) รวมถึงการแข่งขันของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ ที่มีประชากรเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จึงส่งผลที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิต ของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ อย่างไททันโนโบอา และสูญพันธุ์ไปในที่สุด [2]
สัตว์เลื้อยคลานยุคดึกดำบรรพ์ ฝันร้ายของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย จะว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่พวกมันสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ยังคงหลงเหลือสายพันธุ์ร่วม อย่างงูในปัจจุบันที่มีชีวิตอยู่ ในลักษณะน้ำหนักใกล้เคียงกัน คือ งูเหลือมหินแอฟริกาตอนใต้ งูเหลือมลายตาข่าย และ งูอนาคอนดาเขียว เรียกว่าเป็นไททันโนโบอา ขนาดย่อส่วนก็ว่าได้
แหล่งที่อยู่อาศัยของงูโบอา อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบป่าเขตร้อน ที่มีป่าพรุและหนองน้ำ หรือแม่น้ำสายใหญ่ โดยรูปร่างและโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่ สามารถปรับตัวให้เคลื่อนไหว และล่าเหยื่อทางน้ำได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐาน ว่าไททันโนโบอากินอะไรเข้าไป
แต่จากการสำรวจของนักบรรพชีวินวิทยา คาดว่าไททันโนโบอา เป็นสัตว์อยู่ในชั้นนักล่ากินเนื้อ เช่นเดียวกับงูชนิดอื่น ๆ โดยกินสัตว์ขนาดใหญ่ อย่างเช่น จระเข้ ปลาขนาดใหญ่ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคแรก ด้วยขนาดตัวและความแข็งแรงของมัน จึงทำให้การล่าเหยื่อ และกินเหยื่อขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย [3]
ไททันโนโบอาสัตว์สูญพันธุ์ โดยเป็นงูขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ของยุคพาลีโอซีน ถูกสำรวจค้นพบซากดึกดำบรรพ์ในโคลอมเบีย พบว่าสูญพันธุ์จากสภาพแวดล้อม และอากาศเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้มีขนาดตัวเล็กลง และไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่ยังคงมีสายพันธุ์ร่วมในปัจจุบัน อย่างงูเหลือมและอนาคอนดา
ไททันโนโบอาหรืองูโบอา (Titanoboa Cerrejonensis) เป็นงูที่เคยมีชีวิตอยู่ในยุคพาลีโอซีน ประมาณ 60 – 58 ล้านปีก่อน ในปัจจุบันเป็นงูที่สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกมันเป็นสัตว์นักล่า โดยเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีน้ำหนักมากที่สุดในโลก
จากหลักฐานการค้นพบ คาดว่างูโบอากินสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น เต่ายักษ์ จระเข้ยักษ์ ปลาขนาดใหญ่ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ โดยการกัดและรัดเข้าอย่างแรง อาจใช้เวลากลืนทั้งตัว และย่อยนานหลายเดือน ซึ่งถ้าหากในยุคพาลีโอซีน มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ อาจตกเป็นเหยื่อของไททันโนโบอาได้อย่างง่ายดาย
[1] wikipedia. (January 21, 2025). Titanoboa. Retrieved from wikipedia
[2] howstuffworks. (May 27, 2024). Titanoboa: Exploring Colombia’s Prehistoric Giant Snake. Retrieved from animals-howstuffworks
[3] forbes. (June 19, 2024). 7 Incredible Facts About The ‘Titan Boa’—The Largest Snake Ever Discovered. Retrieved from forbes
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.