ทางเข้า เว็บตรง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

เรตินอล สารบำรุงผิวอนุพันธ์ Vitamin A

เรตินอล

เรตินอล (Retinol) เป็นสารบำรุงผิว ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในอุตสาหกรรมความงาม โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า และต่อต้านริ้วรอย สารชนิดนี้เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ (Vitamin A) ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ ช่วยลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เรตินอล สาร Retinol คืออะไร

เรตินอลเป็นหนึ่งในกลุ่ม ของเรตินอยด์ (Retinoids) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ โดยทั่วไปแล้ว เรตินอลจะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพื่อแก้ไขปัญหาผิวพรรณต่างๆ เช่นริ้วรอย จุดด่างดำ สิว และผิวที่ดูหมองคล้ำ
และอ่อนเยาว์ขึ้นอีกด้วย

หน้าที่หลักของเรตินอล คือช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวใหม่ ที่มีสุขภาพดีกว่าเข้ามาแทนที่ ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียน และอ่อนเยาว์มากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบว่าเรตินอล มีส่วนช่วยในการปรับสมดุล ของน้ำมันบนผิวหน้า ทำให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส

เรตินอล ประโยชน์ด้านริ้วรอย จุดด่างดำ

  • ลดเลือนริ้วรอย: เรตินอลเป็นสาร ที่มีประสิทธิภาพ ในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญ ที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง เมื่อผิวมีคอลลาเจนมากขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ก็จะลดเลือนลงไป
  • ลดจุดด่างดำ: เรตินอลช่วยยับยั้ง การสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่ผิดปกติ ส่งผลให้ผิวดูขาวกระจ่างใส และจุดด่างดำ หรือรอยแผลเป็นจางลง
  • รักษาสิว: เรตินอลยังช่วยลดการสะสม ของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และน้ำมันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ของการเกิดสิว
  • ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: การใช้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส ลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ที่มา: Human Skin Aging [1]

 

เรตินอล วิธีการใช้อย่างถูกต้อง % สูงสุด

เรตินอล

การใช้เรตินอล ควรเริ่มต้นจากความเข้มข้นต่ำ เพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับตัวได้ โดยทั่วไปแล้วเรตินอล มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.25% สำหรับความเข้มข้นสูงสุด ที่สามารถใช้ได้ โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์คือ 1% ความเข้มข้นที่แนะนำ สำหรับผู้เริ่มต้นคือประมาณ 0.25%-0.5% และสามารถเพิ่มได้ถึง 1% เมื่อผิวปรับตัวได้ดีขึ้น

การใช้เรตินอลร่วมกับ เซรั่มวิตามินซี สามารถทำได้ แต่ควรใช้แยกกัน ในเวลาแตกต่างกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง เนื่องจากเรตินอลและวิตามินซี มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ หากใช้พร้อมกัน

การใช้เรตินอลควรใช้เฉพาะตอนกลางคืน เนื่องจากเรตินอล ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด และควรใช้ครีมกันแดดในตอนเช้า เพื่อลดความเสี่ยง ของการระคายเคือง จากแสงแดด หลีกเลี่ยงการใช้เรตินอล ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีกรดเช่น กรดซาลิไซลิก หรือ AHA/BHA เพื่อป้องกันการระคายเคือง [2]

เรตินอล งานวิจัย ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์

การศึกษาจาก Journal of Dermatological Treatment (2021)

  • นักวิจัยได้ทำการทดลอง กับกลุ่มอาสาสมัคร ที่มีริ้วรอยบนใบหน้า ระดับปานกลางถึงมาก กลุ่มอาสาสมัครได้รับผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของเรตินอล 0.5% เพื่อนำมาใช้เป็นประจำ ในช่วงกลางคืนติดต่อกันเป็นเวลา 12 สัปดาห์
  • ผลการวิจัยพบว่าอาสาสมัครที่ใช้เรตินอล มีการลดลงของริ้วรอยอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก นอกจากนี้ ยังพบว่าผิวหน้าโดยรวม ดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น อาสาสมัครส่วนใหญ่รายงานว่าผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกอาจเกิดการระคายเคืองเล็กน้อย เช่นผิวแห้งหรือลอก

การศึกษาจาก British Journal of Dermatology (2018)

  • ศึกษาผลกระทบของเรตินอล ต่อการลดความเข้ม ของจุดด่างดำ ที่เกิดจากการสัมผัสแสงแดด โดยทำการทดลอง กับอาสาสมัคร ที่มีปัญหาจุดด่างดำ และผิวคล้ำจากแสงแดด การทดลองใช้เรตินอลที่ความเข้มข้น 1% ทาลงบนผิวหน้า วันละครั้งก่อนนอน เป็นระยะเวลาทั้งหมด 16 สัปดาห์
  • ผลการทดลองพบว่า ความเข้มของจุดด่างดำลดลงถึง 30% และความสว่างของผิวหน้า ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ สีผิวโดยรวมของอาสาสมัคร ก็มีความสม่ำเสมอมากขึ้น และลดปัญหาสีผิวไม่เท่ากัน ที่เกิดจากแสงแดด [3]

เรตินอล วิธีใช้ ควรใช้คู่กับอะไร

  • วิธีใช้เรตินอลอย่างถูกต้อง ควรเริ่มด้วยปริมาณน้อยและค่อยๆ เพิ่มการใช้เมื่อผิวปรับตัวได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
  • ทำความสะอาดผิวหน้า: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน
  • ทาเรตินอล: หลังจากทำความสะอาดแล้ว ให้ทาเรตินอล ในปริมาณเท่ากับเม็ดถั่วทั่วใบหน้า แต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา ปาก และจมูก
  • ใช้มอยส์เจอไรเซอร์: หลังจากใช้เรตินอล ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการระคายเคือง
  • ครีมกันแดด: เนื่องจากเรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรใช้ครีมกันแดด SPF30 ขึ้นไปทุกเช้า

เรตินอล ข้อเสีย ไวต่อแสง ผลข้างเคียง

  • แม้ว่าเรตินอลจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อเสียและผลข้างเคียงที่ควรระวัง
  • การระคายเคืองผิว: เรตินอลอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย การใช้เรตินอลอาจทำให้ผิวแห้ง แตก ลอก หรือแดงได้ ดังนั้น การเริ่มใช้ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำและค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม
  • ไวต่อแสงแดด: เรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น การไม่ทาครีมกันแดด หลังใช้เรตินอล อาจทำให้ผิวถูกแสงแดดทำร้ายได้ง่าย ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำ หากใช้เรตินอลในช่วงกลางคืน
  • อาจไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์: การใช้เรตินอลในปริมาณมาก อาจมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ แนะนำให้สตรีมีครรภ์ ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

สรุปเรตินอล สารบำรุงผิว ลดริ้วรอยจุดด่างดำ

เรตินอลเป็นสารบำรุงผิว ที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในการลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำ อีกทั้งยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การใช้เรตินอลควรใช้อย่างระมัดระวัง เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นต่ำ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง

อ้างอิง

[1] mdpi. (November 04, 2023). Human Skin Aging. Retrieved from mdpi

[2] verywellhealth. (July 25, 2023). When to Use Retinol. Retrieved from verywellhealth

[3] academic. (March 01, 2010). Improvement in skin wrinkles. Retrieved from academic