ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

สารสกัดพริกไทยดำ มีสาร Piperine ช่วยลดน้ำหนัก

Missile
, ศุกร์ 20 กันยายน 2024

สารสกัดพริกไทยดำ หรือ Black Pepper Extract ได้รับความสนใจ ในวงการวิจัยสมัยใหม่ เนื่องจากมีสารสำคัญที่เรียกว่า “ไพเพอรีน” (Piperine) ซึ่งมีคุณสมบัติ ในการส่งเสริมการเผาผลาญ และช่วยลดน้ำหนัก มาดูกันว่าการทำงานของสารสกัดพริกไทยดำ ช่วยในการลดน้ำหนัก ได้อย่างไรบ้าง

สารสกัดพริกไทยดำ จาก Piper nigrum คืออะไร

สารสกัดพริกไทยดำคือสารสกัด ที่ได้จากเมล็ดของพริกไทยดำ มีประโยชน์ ในการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ช่วยในการลดน้ำหนัก และส่งเสริมสุขภาพ มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และ รวมถึงช่วยส่งเสริม การดูดซึมสารอาหารในร่างกาย จึงได้รับความนิยม ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

สารสกัด พริกไทยดำ สารประกอบสำคัญ Piperine

ไพเพอรีน (Piperine) เป็นสารประกอบสำคัญ ที่พบในพริกไทยดำ ซึ่งเป็นสารอัลคาลอยด์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การดูดซึมสารอาหาร และส่งผลดีต่อการทำงาน ของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ ไพเพอรีนยังได้รับการศึกษา ในด้านการกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน และการย่อยสลายไขมัน

สารสกัดพริกไทยดำ กลไกการทำงานของพริกไทย

เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ไพเพอรีนช่วยกระตุ้น การทำงานของเอนไซม์ และการผลิตความร้อน ในร่างกาย (thermogenesis) ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่ร่างกายใช้พลังงาน เพื่อเพิ่มอุณหภูมิ ส่งผลให้เผาผลาญไขมัน และพลังงานมากขึ้น แม้จะทำกิจกรรมปกติ เช่น การเดิน หรือการออกกำลังกายเบาๆ เช่นเดียวกับการทำงานของ กรีนทีเอ็กซ์แทรค และ สารแคปไซซิน
ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า ไพเพอรีนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การดูดซึมของสารอาหารหลายชนิด เช่นวิตามิน C, B6, และแร่ธาตุต่างๆ โดยการยับยั้งเอนไซม์ ที่ทำให้สารอาหารถูกย่อยสลายเร็วเกินไป ทำให้ร่างกาย สามารถใช้ประโยชน์ จากสารอาหารเหล่านั้น ได้อย่างเต็มที่
ควบคุมระดับไขมันในเลือด มีงานวิจัย ที่ชี้ให้เห็นว่าไพเพอรีน สามารถลดระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) นอกจากนี้ ไพเพอรีนยังช่วยลดการสะสม ของไขมันในตับ ทำให้ป้องกันการเกิดโรค ที่เกี่ยวกับไขมันสะสมเกินไปเช่น Fatty liver disease
ยับยั้งการสะสมไขมัน จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่าไพเพอรีน สามารถยับยั้งกระบวนการสร้างไขมันใหม่ (adipogenesis) ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่เซลล์ไขมันสะสมพลังงาน ไว้ในรูปของไขมัน ไพเพอรีนยังส่งผลกระทบ ต่อการสร้างเซลล์ไขมันใหม่ ทำให้ร่างกาย สามารถควบคุมการสะสมไขมันได้ดีขึ้น
ลดการอักเสบ และภาวะเครียด oxidation การอักเสบ และภาวะเครียดออกซิเดชัน เป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญ ในการสะสมไขมัน และเพิ่มน้ำหนัก สารต้านอนุมูลอิสระในพริกไทยดำ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และป้องกันการเกิดภาวะเครียด oxidation จึงช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคอ้วน

ที่มา: Black Pepper For Weight Loss [1]

สารสกัดพริกไทยดำ งานวิจัยไพเพอรีนที่เกี่ยวข้อง

การศึกษาในหนูทดลอง งานวิจัยหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Bioscience, Biotechnology, and Biochemistry พบว่าไพเพอรีน ช่วยลดการสะสมไขมัน ในหนูทดลอง โดยมีผลในการยับยั้ง การสร้างเซลล์ไขมันใหม่ และเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ส่งผลให้หนู มีน้ำหนักตัวลดลง เมื่อเปรียบเทียบ กับกลุ่มควบคุม

งานวิจัยในมนุษย์ การศึกษาในมนุษย์ เกี่ยวกับการเสริมไพเพอรีน ยังมีอยู่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัย ที่สนับสนุนว่า การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีไพเพอรีน ร่วมกับสารอาหารอื่นๆ สามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญ และช่วยควบคุมน้ำหนักได้ [2]

สารสกัดพริกไทยดำปริมาณสาร ในพริกไทยดำที่ปลอดภัย

สารสกัดพริกไทยดำหรือ Black Pepper Extract มีประโยชน์หลายอย่าง เช่นช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ปรับปรุงการทำงาน ของระบบทางเดินอาหาร และมีสารต้านอนุมูลอิสระ สำหรับปริมาณที่ปลอดภัย ในการบริโภคสารสกัดพริกไทยดำขึ้นอยู่กับรูปแบบ และวัตถุประสงค์การใช้

โดยทั่วไปแล้ว การบริโภค ในปริมาณที่เหมาะสม จะอยู่ที่ประมาณ 0.5-1 กรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ก่อนเริ่มใช้ สารสกัดพริกไทยดำ เพื่อความปลอดภัย [3]

สารสกัดพริกไทยดำ ข้อควรระวังการใช้พริกไทยดำ

แม้ว่าพริกไทยดำ จะมีประโยชน์มากมาย แต่การใช้ในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่นระคายเคืองทางเดินอาหาร นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีไพเพอรีน ร่วมกับยาบางชนิด อาจทำให้มีปฏิกิริยาต่อกันได้ เช่นยารักษาโรคหัวใจ หรือยาที่ส่งผล ต่อการทำงานของตับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

สรุป สารสกัดพริกไทยดำ มีไพเพอรีน ช่วยลดน้ำหนัก

พริกไทยดำ และสารสกัดไพเพอรีน มีบทบาทที่สำคัญ ในการช่วยลดน้ำหนัก โดยการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ลดการสะสมไขมัน และส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้พริกไทยดำ ในการลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ ควรควบคู่กับการรับประทานอาหารที่สมดุล และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตามคำแนะนำของแพทย์