ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
วิตามินอีบำรุงผิว (Vitamin E) เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการบำรุงผิวพรรณ ซึ่งเป็นวิตามิน ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิว และลดความเสียหายจากสิ่งแวดล้อม บทความนี้จะนำเสนอข้อมูล เกี่ยวกับประโยชน์ของวิตามินอี การเลือกอาหารเสริม และการใช้อย่างปลอดภัย
วิตามินอีเป็นกลุ่มของสารอาหาร ที่ละลายในไขมันเช่นเดียวกับ แอสตาแซนธิน ซึ่งประกอบด้วยสารในกลุ่มที่เรียกว่า Tocopherols และ Tocotrienols โดย Alpha-tocopherol เป็นรูปแบบที่ร่างกายใช้มากที่สุด วิตามินอีมีคุณสมบัติ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจากการถูกทำลาย โดยอนุมูลอิสระ
วิตามินอีพบได้ในอาหารหลายประเภท เช่นถั่วต่างๆ almond hazelnut และเมล็ดทานตะวัน รวมถึงน้ำมันพืช เช่นน้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน นอกจากนี้ ผักใบเขียวอย่างผักโขม คะน้า รวมถึงผลไม้อย่าง Kiwi มะม่วง และ avocado วิตามินอียังพบในปลาปลาแซลมอน ทูน่า ไข่ รวมทั้งซีเรียล และธัญพืชเต็มเมล็ดก็มีวิตามินอีเช่นกัน
นอกจากประโยชน์ต่อผิวพรรณแล้ว วิตามินอียังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
ที่มา: Vitamin-E and Skin Health [1]
วิตามินอีที่พบในอาหารเสริม แบ่งเป็นสองประเภทหลักคือ วิตามินอีจากธรรมชาติ (D-alpha-tocopherol) และวิตามินอีสังเคราะห์ (DL-alpha-tocopherol) ซึ่งวิตามินอีจากธรรมชาติ มีความสามารถ ในการดูดซึมได้ดีกว่า
ปริมาณวิตามินอีที่แนะนำต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่คือ 15 มิลลิกรัม (22.4 IU) ส่วนสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ปริมาณที่แนะนำ จะเพิ่มขึ้นเป็น 19 มิลลิกรัม (28.4 IU) วิตามินอีสามารถหาทาน ได้ในรูปแบบต่างๆ เช่นแคปซูลชนิดนิ่ม, เม็ดเคี้ยว, และน้ำมัน โดยควรรับประทานพร้อมอาหารที่มีไขมันเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดี [2]
วิตามินอีชนิดรับประทาน เป็นหนึ่งในอาหารเสริม ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว โดยเฉพาะการลดริ้วรอย ชะลอการเกิดอนุมูลอิสระ และช่วยในการลดความเสียหาย ของผิวที่เกิดจากแสง UV มีการศึกษาชี้ว่าวิตามินอี สามารถลดความเสี่ยง ของมะเร็งผิวหนัง และชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
โดยการเสริมวิตามินอีในรูปแบบ alpha-tocopherol มีประสิทธิภาพสูง ในการต้านการเกิด Lipid oxidation ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่ทำลายเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบ และป้องกันปัญหาผิว ที่เกี่ยวข้องกับอายุได้ดีขึ้น [3]
การรับประทานวิตามินอี ควรทำตามคำแนะนำ ที่เหมาะสมจากแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเสริม เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคเกินขนาด ไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เทียบเท่า 1,500 IU ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่นการเกิดภาวะเลือดแข็งตัวช้า หรือเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ
ในบางรายการรับประทานวิตามินอี ร่วมกับยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่นยาละลายลิ่มเลือด ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนรับประทานอาหารเสริมวิตามินอี
วิตามินอีเป็นอาหารเสริม ที่มีประโยชน์อย่างมาก ในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดริ้วรอย ฟื้นฟูความชุ่มชื้น และลดการอักเสบของผิวหนัง อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และการรับประทานวิตามินอี ควรทำด้วยความระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง ที่อาจเกิดขึ้น
[1] lpi. (February 2012). Vitamin-E and Skin Health. Retrieved from lpi
[2] lpi. (2000-2024). Vitamin-E. Retrieved from lpi
[3] intechopen. (June 07, 2021). Vitamin-E in Human Skin. Retrieved from intechopen
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.