ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

ท่องเที่ยว พระราชวังเคียงบกกุง เกาหลีใต้เที่ยวได้ตลอดปี

RPGX
, อังคาร 21 พฤษภาคม 2024

พระราชวังเคียงบกกุง สถานที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมโบราณ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ได้รับชมความงดงาม และความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรม ถ่ายภาพเช็กอินกับสถานที่สำคัญในพระราชวัง พร้อมทำกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมาย

พระราชวังเคียงบกกุง แหล่งเที่ยวประวัติศาสตร์เกาหลี

พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกกันว่า “พระราชวังคยองบก” คือ พระราชวังหลักของสมัยราชวงศ์โชซอน ถูกก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1395 อยู่ทางตอนเหนือกรุงโซล ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุด โดยมีความหมายของพระราชวังว่า “พระราชวังแห่งพรแสงสว่าง” [1]

ตามประวัติศาสตร์ เป็นสถานที่ประทับ เพื่อว่าราชการของกษัตริย์ จนกระทั่งเกิดเหตุไฟเผา ช่วงสงครามปี ค.ศ. 1592 – 1598 และต่อมาได้รับการปรับปรุง โดยมีห้องทั้งหมด 7,700 ห้อง อาหาร 500 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 40 เฮกตาร์ ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม จากยูเนสโกด้วย

พระราชวังเคียงบกกุง จุดเช็กอินห้ามพลาด!

ภายในพระราชวังตั้งแต่สมัยอดีต มีจำนวนพระตำหนักมากถึง 200 แห่ง แต่หลังจากสงครามของญี่ปุ่น ก็ได้ถูกทำลายทิ้ง ปัจจุบันมีพระตำหนักเพียง 10 แห่ง สามารถเดินชมได้ โดยมีสถานที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

ประตูควางฮวามุน (Gwanghwamun Gate) : ประตูทางเข้าออกหลัก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระราชวัง และเป็นป้อมปราการสำคัญ สำหรับการเฝ้าดูแลพระราชวัง รวมถึงตัวเมือง
พระที่นั่งคึนจอง (Geunjeongjeon) : ใช้ในการประทับว่าราชการ ทำพิธีสำคัญต่าง ๆ ทั้งยังได้รับการจดทะเบียนเป็น สมบัติแห่งชาติเกาหลีใต้ ของอาคารไม้ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุด
ศาลาคยองฮเวรูกวาน (Gyeonghoeru Pavilion) : ศาลากลางแอ่งน้ำ สำหรับการจัดงานยิ่งใหญ่ของบรรดาขุนนาง รองรับพระราชอาคันตุกะ และการจัดสอบของราชบัณฑิต
หอสมุดจิบอกแจ (Jibokjae Hall) : หอหนังสือและเอกสารสำคัญ ของราชวงศ์โชซอน สถานที่รวบรวมความรู้ ตั้งแต่สมัยอดีตไว้อย่างมากมาย

กิจกรรมน่าสนใจใน พระราชวังเคียงบกกุง

เข้าร่วมกิจกรรมที่ห้ามพลาด ในพระราชวัง จะทำให้ทริปการท่องเที่ยวสนุกมากยิ่งขึ้น กับกิจกรรมดังนี้

แต่งกายชุดฮันบก เดินเที่ยวชมพระราชวัง คือชุดประจำชาติของเกาหลีใต้ สำหรับการถ่ายภาพให้เข้ากับบรรยากาศย้อนยุค ทั้งยังช่วยให้เข้าชมพระราชวังฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ชมพิธีผลัดเปลี่ยนเวรยาม บริเวณหน้าประตูหลักควางฮวามุน สามารถรับชมได้ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์เท่านั้น) มีทั้งหมด 3 ช่วงเวลา คือ 11.00 น. 14.00 น. และ 15.30 น.
เข้าชมพระราชวังตอนกลางคืน เปิดให้เข้าชมช่วงฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเวลา 19.00 น. – 21.30 น. โดยมีค่าบริการเพิ่มเติม สำหรับตอนกลางคืน

ที่มา: ที่เที่ยวเกาหลี พระราชวัง เคียงบกกุง [2]

คู่มือสำหรับนักท่องเที่ยว พระราชวังเคียงบกกุง

วางแผนการเดินทางเที่ยวพระราชวัง ในเกาหลีใต้ สามารถเที่ยวได้ตั้งแต่ 09.00 น. – 18.00 น. หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลา ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงหรือเทศกาล สามารถติดตามข้อมูลก่อนเดินทางต่าง ๆ จากเว็บทางการของพระราชวัง royal.cha.go.kr

พระราชวังเคียงบกกุง เวลาบริการและค่าเข้าชม

พระราชวังเปิดให้เข้าชมสถานที่ได้ทุกวัน (ยกเว้นทุกวันอังคาร) โดยเปิดให้บริการ ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม และช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม เวลา 09.00 น. – 18.00 น. ส่วนช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม เวลา 09.00 น. – 18.30 น. และช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น. – 17.00 น.

โดยมีค่าบริการเข้าชม ตามรายละเอียดจากนี้

ราคาเด็กและเยาวชน (อายุ 7 – 18 ปี) : 1500 วอน
ราคาผู้ใหญ่ (อายุ 19 – 64 ปี) : 3000 วอน
ราคาเด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 6 ปี), ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) และนักท่องเที่ยวสวมชุดฮันบก : เข้าชมฟรี
ราคาสำหรับการเข้าชมเป็นกลุ่ม (10 คนขึ้นไป) : มีส่วนลดเพิ่มเติม
บริการจอดรถ : รถยนต์ขนาดเล็ก 3000 วอน / 2 ชม. รถยนต์ขนาดใหญ่ 5000 วอน / 2 ชม. และค่าจอดรถเพิ่ม 800 วอน (หากจอดเกินเวลา / 10 นาที)

ที่มา: พระราชวังคย็องบกกุง: ย้อนรอยประวัติศาสตร์ [3]

พระราชวังเคียงบกกุง เดินทางวิธีไหนบ้าง?

สำหรับการเดินแบบสะดวกสบาย มีด้วยกัน 2 วิธีโดยรถไฟใต้ดิน และรถบัสประจำทาง ดังต่อไปนี้

เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน : เริ่มจากขึ้นรถไฟสาย 3 ลงที่สถานีเคียงบกกุง ตรงไปยังทางออกที่ 5 แล้วเดินเท้าอีกเล็กน้อย จะถึงทางเข้าพระราชวัง หรือเริ่มต้นจากรถไฟสาย 5 ลงที่สถานีควางฮวามุน ตรงไปทางออก 5 จากนั้นเดินเท้าเล็กน้อย จะถึงจุดหมายทันที
เดินทางด้วยรถบัสประจำทาง : เลือกขึ้นรถบัสประเภท Circular Bus สาย A01 หรือสาย 171, 272, 708 และสาย 7025 มาลงที่ป้ายจอดเคียงบกกุง

สรุป พระราชวังเคียงบกกุง “Gyeongbokgung Palace”

พระราชวังเคียงบกกุง ตามรอยเกาหลีสมัยราชวงศ์โชซอน ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรม มรดกวัฒนธรรมโบราณอันทรงคุณค่า และศึกษาประวัติศาสตร์เกาหลี ตั้งแต่ช่วงปี 1395 ทั้งยังมองเห็นฉากหลังเป็นภูเขาสูงตามธรรมชาติ หนึ่งในแลนด์มาร์คที่ต้องมาให้ถึง!