ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ผีเสื้อขยับปีก หรือปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก การเกิดขึ้นจากสิ่งเล็กน้อย สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เป็นประโยคที่หลายคนเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่อาจฟังดูแปลก ๆ เหมือนว่าจะเกิดขึ้นได้ขนาดนั้นจริงหรือ พามาหาคำตอบของทฤษฎีความอลวน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนโลกของเรา
ผีเสื้อขยับปีก (Butterfly Effect) หลักการอ้างอิงถึง “ทฤษฎีความอลวน” (Chaos Theory) คือการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในขณะหนึ่ง และส่งผลเกิดความแตกต่างครั้งใหญ่ในภายหลัง โดยเป็นลักษณะความโกลาหลหรือปั่นป่วน ในระบบที่ไม่แน่นอน และสุ่มแบบไร้ระเบียบของจักรวาล [1]
แนวความคิดของนักคณิตศาสตร์ และนักอุตุนิยมวิทยา Edward Norton Lorenz เกิดจากทฤษฎีเชิงเปรียบเทียบ การกระพือปีกของผีเสื้อ ในมุมหนึ่งของโลก และอาจทำให้เกิด พายุทอร์นาโด ในมุมอื่นของโลกในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา หรือที่คนไทยเรียกว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”
จากการทดลองใช้คอมพิวเตอร์ Simulation จำลองสภาพอากาศ พบว่าค่าการคำนวณจากข้อมูลแต่ละครั้ง แตกต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง เพราะเขาปัดค่าทศนิยมที่มีค่าน้อยมาก จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมหาศาล เขาจึงตั้งคำถามว่า หากผีเสื้อ 1 ตัว กระพือปีกในบราซิล จะสามารถก่อให้เกิดพายุลูกใหญ่ ในสหรัฐอเมริกาได้
ลองเปรียบเทียบการคำนวณ ระหว่างตัวเลข 0.99 และ 1.01 เป็นค่าที่แทบจะไม่ต่างกันเลย แต่หากลองดูผลลัพธ์ของเลขยกกำลัง 0.99³⁶⁵ และ 1.01⁵³⁶⁵ โดยผลลัพธ์ที่ได้มาคือ 0.03 และ 37.8 ซึ่งเป็นผลลัพธ์แบบทวีคูณ ที่มีความแตกต่างกันมาก อย่างเห็นได้ชัดนั่นเอง [2]
ข้อความที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ผีเสื้อ ถูกใช้อยู่ในประวัติศาสตร์สมัยก่อน ช่วงศตวรรษที่ 13 มีการบันทึกเป็นครั้งแรกโดยนักกวี Freidank และประมาณ 100 ปีต่อมา นักกวีนามว่า Benjamin Franklin ได้เขียนสุภาษิต โดยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เพื่อสื่อถึงสิ่งเล็กน้อย สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ใหญ่กว่าได้
ตามสุภาษิตที่ว่า “เพราะขาดตะปูทำให้รองเท้าหายไป เพราะขาดเกือกม้าทำให้ม้าหายไป เพราะขาดม้าทำให้คนขี่หายไป เพราะขาดคนขี่ทำให้การต่อสู้พ่ายแพ้ เพราะขาดการต่อสู้ทำให้อาณาจักรล่มสลาย และทั้งหมดนี้เป็นเพราะขาดตะปู” ซึ่งฟังดูแล้วอาจดูเหมือนไม่สำคัญ แต่อาจส่งผลทางอ้อมแบบคาดเดาไม่ได้ด้วย [3]
ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก ทฤษฎีวิทยาศาสตร์ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งถูกนำมาเป็นโครงเรื่องของเกม นิยาย หรือภาพยนตร์ อย่างเช่น The Butterfly Effect (การเดินทางย้อนเวลา เพื่อแก้ไขผลกระทบอันโหดร้ายในโลกปัจจุบัน) และ Until Dawn (วันพักผ่อนที่มีการตายแต่ไม่พบศพ แต่เกิดผลกระทบยิ่งใหญ่ในอนาคต)
หากลองจำลองเหตุการณ์ ของผีเสื้อขยับปีก เริ่มต้นจากผีเสื้อ กำลังบินไปเกาะจมูกของหมี แล้วหมีจามเดินไปชนกับต้นไม้ต้นหนึ่ง อาจมีรากที่เปราะบาง ทำให้ต้นไม้ล้มจนพื้นดินแตกแยก สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจเกิดแผ่นดินแยกจนถึงแกนโลก ส่งผลต่อเปลือกโลกเคลื่อนที่ และท้ายที่สุดทำให้เกิด แผ่นดินสั่นไหว
แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย แต่การกระทำเพียงเล็กน้อย ที่คิดว่าไม่มีผลอะไร อาจทำให้จุดศูนย์กลางมวลของโลก เกิดการเปลี่ยนแปลงไปง่าย ๆ เพราะจะส่งผลกระทบกันเป็นทอด ๆ จนเกิดการเปลี่ยนแปลง ที่แรงดึงดูดของโลกกับดวงดาวได้เช่นกัน
ผีเสื้อขยับปีก ปรากฏการณ์ที่อ้างอิงจากทฤษฎีความอลวน โดยเริ่มจากการกระทำเพียงเล็กน้อย นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ส่งผลกระทบมาเป็นทอด ๆ แบบคาดเดาไม่ได้ และไม่เป็นระบบระเบียบในจักรวาล สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งบนโลก ทั้งเชิงบวกและเชิงลบอย่างชัดเจน
[1] wikipedia. (December 11, 2024). Butterfly effect. Retrieved from wikipedia
[2] medium. (October 18, 2019). ปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีก หรือ “Butterfly Effect”. Retrieved from medium
[3] thedecisionlab. (2024). The Butterfly Effect. Retrieved from thedecisionlab
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.