ทางเข้า เว็บตรง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

ผักโขม หรือ ผักขม

ผักโขม

ผักโขม หรือ ผักขม (Amaranth) จัดเป็หนพืชล้มลุก มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผักที่ Popeye ใช้เพิ่มพลัง อันที่จริงแล้วนั่นคือ ผักปวยเล้ง หรือ spinach โดยในการ์ตูนป๊อบอายจะใช้คำว่า spinach อย่างชัดเจน ทีนี้เรามาทำความรู้จักกับผักโขม เป็นพืชที่ขึ้นได้ง่าย ขึ้นได้ทั่วไปตามแหล่งธรรมชาติ เช่น ริมทาง ป่าละเมาะ ป่ารกร้าง มีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ ที่นิยมนำมารับประทานเป็นอาหารได้แก่ ผักโขม ผักโขมสวน ผักโขมหัด ผักโขมหนาม เป็นต้น

แนะนำข้อมูล ต้นผักโขม

ชื่อ: ผักโขม
ชื่อภาษาอังกฤษ: Amaranth
ชื่อวิทยาศาสตร์: Amaranthus blitum subsp. oleraceus (L.) Costea
ชื่ออื่นๆ: ผักโหม ผักหม (ภาคใต้), ผักโหมเกลี้ยง กระเหม่อลอเตอ (แม่ฮ่องสอน) เป็นต้น
วงศ์: AMARANTHACEAE (วงศ์บานไม่รู้โรย)
ถิ่นกำเนิด: ในแถบประเทศเขตร้อน

ที่มา: ผักโขม [1]

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ผักโขม

ผักโขมเป็นไม้พุ่มเตี้ย และเป็นพืชล้มลุก มีอายุแค่ปีเดียว สูงประมาณ 30 – 100 cm.

  • ลำต้น: อวบน้ำ มีสีเขียวตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขาค่อนข้างเยอะ โคนต้นมีสีแดงน้ำตาล
  • ใบ: เป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ดูคล้ายสามเหลี่ยม ใบออกแบนสลับ กว้างประมาณ 2.5 – 8 cm. ยาวประมาณ 3.5 – 12 cm. ผิวเรียบหรือมีขนเล็กน้อย หลังใบเป็นคลื่น ขอบใบเรียบ
  • ดอก: ออกดอกเป็นช่อ ตามซอกใบ และปลายกิ่ง มีสีม่วงปนเขียว ดอกย่อยเรียงตัวอัดกันแน่น
  • เมล็ด: มีลักษณะกลม สีน้ำตาลเกือบดำ และมีขนาดเล็ก

การขยายพันธุ์ การปลูก และการดูแลผักโขม

ขยายพันธุ์: โดยการเพาะเมล็ด ปัจจุบันมีการจำหน่ายเมล็ดบ้างแล้ว ในบางสายพันธุ์ และก็ยังมีสายพันธุ์ที่มักเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สามารถเก็บเมล็ดแก่ เพื่อนำมาเพาะขยายพันธุ์เองได้

การเตรียมดิน: ผักโขมสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย มีการระบายน้ำที่ดี ควรใช้ดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายผสมกับวัสดุทางการเกษตร เช่น แกลบ ขี้เถ้า เป็นต้น ในอัตราส่วนดินกับวัสดุปลูก 2:1

วิธีการปลูก: ใช้วิธีการหว่านเมล็ดทั้งแปลงหรือการหว่านเมล็ดเป็นแถว

  •  การหว่านเมล็ดทั้งแปลง ในอัตรา 10 kg./ไร่ ด้วยการหว่านเมล็ด และคราดดินกลบ 1-2 รอบ พร้อมรดน้ำให้ชุ่ม
  •  การหว่านเมล็ดเป็นแถว เว้นระยะห่างระหว่างแถว 20 -3 0 cm. ในอัตราเดียวกัน พร้อมคราดดินกลบ และรดน้ำให้ชุ่ม
    หมายเหตุ เมล็ดผักโขมจะงอก หลังการหว่านเมล็ดประมาณ 3 – 7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

การดูแล: ตั้งแต่หลังการหว่านเมล็ด จนถึงก่อนระยะเก็บผลผลิต ควรรดน้ำทุกวัน วันละ 1 – 2 ครั้ง ในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อไม่ให้ดินอุ้มน้ำ หรือมีน้ำท่วมขัง และตั้งแต่ระยะที่ต้นอ่อนมีใบแท้ 2 – 4 ใบ ให้เริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 16-8-8 ประมาณ 2-3 ครั้ง

ที่มา: ผักโขม_และการปลูกผักโขม [2]

“ผักโขม”แตกต่างจาก”ผักปวยเล้ง”อย่างไร?

อันที่จริงแล้ว ผักโขมจะมีรสชาติออกหวานหน่อยๆ ไม่ได้ขมเหมือนอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด กินง่ายและให้โปรตีนสูง วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม เป็นต้น
แต่ผักโขมมีปริมาณของสารออกซาเลต (Oxalate) ค่อนข้างสูง ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ ข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคนิ่ว ไม่ควรรับประทานผักชนิดนี้ในปริมาณมากๆ โดยแนะนำว่าการปรุงอาหาร ด้วยวิธีการทอด หรือคั่ว จะช่วยลดปริมาณสารออกซาเลตได้ดีที่สุด ส่วนการต้มนั้น จะช่วยลดลงไปได้ ในระดับหนึ่งเท่านั้น

ส่วน”ปวยเล้ง”จะมีสปีชีส์เดียวกันกับผักโขม มีคุณสมบัติทางด้านโภชนาการจะคล้ายๆ กันแต่ผักโขมจะมีธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินซี สูงกว่าปวยเล้งหลายเท่าตัว ส่วนลักษณะภายนอก และรสชาติจะต่างกันแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่สำคัญคือ ราคาผักปวยเล้งจะมีราคาแพงกว่าผักโขมประมาณเท่าตัว [3]

ประโยชน์ของผักโขม

เป็นยาสมุนไพร: ทั้งต้นผักโขมสามารถนำมาเป็นยา ช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น

  • ทั้งต้น ดับพิษภายใน และภายนอก, แก้บิด, มูกเลือด, ริดสีดวงจมูก, ริดสีดวงทวาร, แก้ผื่นคัน, แก้รำมะนาด, รักษาฝี, แผลพุพอง
  • ใบสด รักษาแผลพุพอง
  • ต้น แก้อาการแน่นหน้าอก และไอหอบ
  • ราก ดับพิษร้อนถอนพิษไข้, ขับปัสสาวะ

ทางอาหาร: ยอดอ่อน ใบอ่อน ต้นอ่อน นำมาต้ม,ลวกหรือนึ่งให้สุก รับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก หรือนึ่งพร้อมกับปลา ทำผัดผักกับเนื้อสัตว์ นำไปปรุงเป็นแกงเช่น แกงเลียง                                                                                                                                                                             กินใบผักโขมเป็นอาหาร เป็นยาชูกำลัง ทำให้สุขภาพดี

ประโยชน์อื่นๆ:

  • สมัยกรีกโบราณ ผักโขม หรือ amaranth ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อกันว่า ผักโขมมีฤทธิ์ในการเยียวยา และเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ
  • ไมโครกรีน เป็นที่นิยมในหมู่นักเพาะต้นอ่อนไมโครกรีน เพราะรูปร่างหน้าตาเป็นเอกลักษณ์สะดุดตา และมีคุณค่าทางสารอาหาร
  • สารสกัดจากใบ ลำต้น และรากผักโขมมีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที สกัดด้วยน้ำแล้วเจือจาง ให้ได้ความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 20 – 100 % เพื่อยับยั้งการงอก ของเมล็ดพริกพันธุ์จินดา
  • มีสารซาโปนิน ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด เช่นเดียวกันกับ มะรุุม

พันธุ์ที่นิยมปลูกหรือรับประทาน

ผักโขม

ในปัจจุบันมีทั้งพันธุ์ที่มีการปรับปรุงพันธุ์ และพันธุ์ดั้งเดิมที่เกิดตามธรรมชาติ โดยเรียกชื่อตามความนิยม ได้แก่
1. ผักโขมจีน (A. tricolor)
2. ผักโขมบ้าน หรือผักโขมเล็ก
3. ผักโขมหนาม (A. viridis, A. spinosus)
4. ผักโขมยักษ์

สรุป ผักโขม ผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางอาหารสูง

สรุป ผักโขม ผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางอาหาร มีโปรตีนสูง และมีกรดอะมิโนครบทุกชนิด เหมาะกับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ ทั้งอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ อีกทั้งยังมีบีตา-แคโรทีนสูง โดยมีสารลูทีนและสารเซอักแซนทิน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์อยู่เป็นจำนวนมาก สรรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา และมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย สรรพคุณขนาดนี้สนใจอยากทานบ้างแล้วใช่ไหมคะ

อ้างอิง

[1] wikipedia. (November 23, 2024). ผักโขม. Retrieved from wikipedia

[2] puechkaset. (April 5, 2017). ผักโขม_และการปลูกผักโขม. Retrieved from puechkaset

[3] medthai. (July 2, 2020). ผักโขม. Retrieved from medthai