ทางเข้า เว็บตรง
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ
นกแก้ว แคโรไลนา เป็นเวลานานประมาณหนึ่งศตวรรษ ที่เราไม่พบเจอนกแก้วสายพันธุ์นี้ในป่าธรรมชาติ รวมถึงในกรงเลี้ยง เพราะพวกมันเป็นนกแก้วที่มีสีสันสวยงามมาก จึงทำให้สูญพันธุ์ไปในที่สุด พามาสำรวจดูกันว่านกแก้วแคโรไลนา มีหน้าตาเป็นอย่างไร พฤติกรรมตามธรรมชาติ และหาสาเหตุของการสูญพันธุ์ไป
นกแก้ว แคโรไลนา (Carolina Parakeet) หรือ นกแก้วแคโรไลนาคอนัวร์ สายพันธุ์ของนกแก้วเขตร้อน จัดอยู่ในวงศ์ Psittacidae โดยอยู่ใน รายชื่อ นกที่สูญพันธุ์ แหล่งกำเนิดในรัฐของสหรัฐอเมริกา ทางตะวันออก ทางตะวันตกกลาง และบริเวณพื้นที่ราบ ซึ่งเป็นนกแก้วพื้นเมืองเพียงชนิดเดียว และเป็นหนึ่งใน 3 สายพันธุ์ คือ นกแก้วปากหนา (สูญพันธุ์แล้ว) และ นกแก้วปากเขียว (พบในเท็กซัส) [1]
ลักษณะนกแก้วแคโรไลนา เป็นนกขนาดเล็กสีเขียว มีขนาดตัวและสีสันใกล้เคียงกับ นกแก้วซันคอนัวร์ โดยมีหัวสีเหลืองสดใส ใบหน้าสีส้มอมแดง ดวงตามีขอบขาว จะงอยปากสีเนื้อซีด ขาและเท้าเป็นสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งมีความยาวลำตัว 32 – 34 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 99 กรัม และปีกกว้าง 53 – 58 เซนติเมตร
นกแก้วสายพันธุ์แคโรไลนา เข้ามาอยู่อาศัยในอเมริกาเหนือ ตั้งแต่ประมาณ 5.5 ล้านปีก่อน และวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีความใกล้ชิดกับ นกแก้วซันคอนัวร์ นกแก้วนันเดย์ และนกแก้วหัวทอง ซึ่งพวกมันมีถิ่นอาศัยแตกต่างกัน จนมาถึงแถบอเมริกาใต้ และแยกสายพันธุ์ออกไปเมื่อ 50 ล้านปีก่อน
ครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่ของนกแก้วแคโรไลนา พวกมันเป็นนกที่มีสีสันสวยงามที่สุดชนิดหนึ่งในอเมริกา มักออกเดินทางเป็นฝูงครั้งละ 100 – 1,000 ตัว แต่จะไม่อพยพระยะทางไกล เพราะส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ห่างจากถิ่นไม่เกิน 48 กิโลเมตร แต่บางกลุ่มอาจย้ายถิ่น เพื่อเตรียมรับมือกับอากาศในฤดูหนาว
พฤติกรรมทั่วไปจะมีความสามัคคีกัน เนื่องจากเป็นนกสังคม นกแก้วแคโรไลนาจะช่วยกันทำความสะอาดขนให้กันและกัน เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ และรักษาความสะอาด รวมถึงการหาอาหารร่วมกัน ในช่วงใกล้พระอาทิตย์ขึ้น และช่วงพระอาทิตย์ตก ส่วนตอนกลางวันจะเป็นช่วงพักผ่อน นอนเกาะคอนหรืออาบน้ำ [2]
นกแก้วสายพันธุ์พื้นเมืองชนิดนี้ เป็นหนึ่งในนกที่สูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย เช่นเดียวกับ อาหาร นกกระทุงแว่นตา ที่มีสีสันสวยงามเช่นกัน พวกมันมีประชากรลดลง ไปพร้อมกับการเติบโตของอเมริกา และถึงแม้ว่าจะมีนกแก้วอีกหลายสายพันธุ์ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้เลยว่า สายพันธุ์ที่สวยงามจะคงอยู่ได้อีกนานแค่ไหน
นกแก้วแคโรไลนาเคยมีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อชาวยุโรปเข้ามาตั้งถิ่นฐาน กลายเป็นแผ่นดินใหญ่สหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ทำลายป่าผลัดใบ ที่เป็นแหล่งอาศัยของนกแก้ว เพื่อขยายพื้นที่ทำฟาร์มและเมือง แต่นกแก้วแคโรไลนาก็สามารถปรับตัวได้ พวกมันเลือกกินผลไม้ และพืชผลทางการเกษตร
ทำให้นกแก้วกลายเป็นศัตรูของชาวนา จึงเกิดการไล่ล่า และการสังหารหมู่ที่ง่ายดาย แม้ว่าชาวนาจะไล่ฆ่านกแก้วจนหมดสิ้น แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ไล่ฆ่าเพื่อความสนุก เพื่อนำขนสีสันสวยงาม มาประดับหมวกของผู้หญิง ส่งผลให้นกแก้วในป่าลดลงอย่างมาก และถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็ไม่ได้มีการเพาะพันธุ์จริงจัง
เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน นกแก้วแคโรไลนาตัวสุดท้าย เป็นนกแก้วเพศผู้ชื่อว่า “อินคา” มันตายลงขณะถูกเลี้ยงอยู่ในกรง ของสวนสัตว์ซินซินแนติ (Cincinnati Zoo) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งดูเหมือนว่ามันตายตามธรรมชาติ แต่ก็มีข้อโต้แย้งกันว่า มันตายเพราะหัวใจสลาย เพราะคู่หูของมันเพิ่งตายไปเมื่อเดือนก่อน [3]
นกแก้วแคโรไลนา หนึ่งในสายพันธุ์นกแก้วเขตร้อน ถิ่นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา เป็นนกแก้วที่มีขนาดเล็ก และสีสันสวยงาม คล้ายกับนกแก้วซันคอนัวร์ โดยสูญพันธุ์ไปแล้วประมาณ 100 ปีก่อน เนื่องจากการไล่ล่าเพื่อกำจัด การล่าเพื่อทำเครื่องประดับ ประชากรผึ้งแย่งที่อยู่อาศัย และไม่มีการเพาะพันธุ์ในสวนสัตว์
การสูญพันธุ์ของนกแก้วแคโรไลนา นักวิทยาศาสตร์ศึกษาเกี่ยวกับ กระบวนการเก็บเกี่ยว DNA เพื่อดัดแปลงพันธุกรรม การผสมพันธุ์ หรือนำสายพันธุ์อื่นกลับมา ซึ่งสามารถทำได้แต่ค่อนข้างใช้ทุนมหาศาล และยังมองอีกว่าสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่สามารถปล่อยให้นกแก้วแคโรไลนา กลับไปอยู่ในที่ที่เคยอยู่ได้ และไม่คิดว่ามันจะเติบโตได้ดีอีกต่อไป
ปัจจุบันนกแก้วพันธุ์แคโรไลนาสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว โดยมีตัวอย่างจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติฟิลด์ (Field Museum of Natural History) เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ มีขนสีสันสวยงามในแบบของตัวเอง แตกต่างจากนกแก้วสายพันธุ์อื่น ๆ
[1] wikipedia. (January 23, 2025). Carolina parakeet. Retrieved from wikipedia
[2] azanimals. (December 5, 2024). Carolina Parakeet. Retrieved from a-z-animals
[3] forbes. (March 19, 2018). What Happened To America’s Only Endemic Parrot?. Retrieved from forbes
LONPAO Official © 2023 All Rights Reserved.