ทางเข้า เว็บตรง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

ตำลึง ผักริมรั้วที่ช่วยลดไขมัน พร้อมเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

ตำลึง

ตำลึ (Coccinia grandis (L.) Voigt) หรือ Ivy Gourd เป็นสมุนไพรไทย ที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยสารสำคัญที่กระตุ้นอินซูลินและต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ และเสริมการเผาผลาญในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ

แนะนำข้อมูล ต้นตำลึง

ชื่อ: ตำลึง

ชื่อภาษาอังกฤษ: Ivy Gourd

ชื่อวิทยาศาสตร์: Coccinia grandis (L.) Voigt (Cephalandra indica (Wight & Arn.) Naudin)

ชื่ออื่นๆ: สี่บาท (ภาคกลาง), ผักแคบ (ภาคเหนือ), ผักตำนิน (ภาคอีสาน), แคเด๊าะ (แม่ฮ่องสอน)

วงศ์: CUCURBITACEAE (วงศ์แตง)

ถิ่นกำเนิด: คาบสมุทรมาเลเซียและอินโดจีน (เช่น ประเทศไทย, กัมพูชา, พม่า, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และจีน)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นตำลึง

  • ลำต้น: ตำลึงเป็นไม้เลื้อยอายุหลายปี ลำต้นสีเขียวกลม มีมือเกาะตามข้อ เถาแก่แข็งแรง และมีสีเขียวเข้ม หรือสีน้ำตาล
  • ใบ: ใบเดี่ยวออกสลับ รูปร่างคล้าย 5 เหลี่ยม โคนใบรูปหัวใจ ขอบใบเว้าลึกหรือเว้าน้อย ใบสีเขียวเรียบไม่มีขน
  • ดอก: ดอกแยกเพศอยู่คนละต้น ลักษณะเป็นรูประฆัง กลีบดอกสีขาว โคนกลีบเชื่อมเป็นกรวย ปลายแยก 5 แฉก
  • ผล: ผลวงรี ทรงยาว ขนาด 5×5 ซม. ผลดิบสีเขียวมีลายขาว ผลแก่สีแดงหรือแดงอมส้ม เนื้อในสีแดง มีเมล็ดแบนจำนวนมาก
  • ราก: รากแก้วลึก ดูดซับน้ำและสารอาหารได้ดี ใช้เป็นสมุนไพรรักษาอาการบางอย่าง
  • การเจริญเติบโต: เติบโตดีในดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด พบทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศไทย

ที่มา: ตำลึง สรรพคุณและประโยชน์ของตำลึง 44 ข้อ ! [1]

ตำลึง สมุนไพรลดไขมันสำหรับผู้รักสุขภาพ

ตำลึง เป็นสมุนไพรไทยที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมการกิน และการรักษาโรคของคนไทยมายาวนาน นอกจากจะนำยอดอ่อนและใบ มาใช้ปรุงอาหาร ตำลึงยังได้รับการยอมรับ ในวงการแพทย์แผนไทยและการวิจัยสมัยใหม่ ว่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในร่างกาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติเด่นของตำลึงในการลดไขมัน

  • ช่วยลดน้ำตาลในเลือด: ตำลึงกระตุ้นการทำงานของเบต้าเซลล์ในตับอ่อน เพิ่มอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
  • ลดไขมันในเลือด: การบริโภคตำลึงช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ต้านอนุมูลอิสระ: ตำลึงมีเบตาแคโรทีน วิตามินซี และเอ ช่วยลดความเสี่ยงไขมันสะสมในหลอดเลือด
  • ช่วยขับสารพิษ: ใบตำลึง ช่วยขจัดสารพิษในลำไส้ และระบบทางเดินอาหาร เสริมการเผาผลาญ

วิธีใช้ตำลึงเพื่อการลดไขมัน

  1. ดื่มน้ำตำลึง: นำใบตำลึงสด ประมาณ 1 กำมือ มาปั่นรวมกับน้ำสะอาด จากนั้นกรองเอาแต่น้ำ และดื่มวันละ 1–2 แก้ว ควรดื่มในช่วงเช้า หรือก่อนมื้ออาหาร
  2. เมนูอาหารลดไขมันจากตำลึง:

     – แกงจืดตำลึง: ใช้ใบและยอดอ่อนของตำลึง ต้มในน้ำซุป เติมโปรตีนไขมันต่ำ เช่น หมูสับหรือเต้าหู้

     – ไข่เจียวตำลึง: ผสมใบตำลึงหั่นฝอย ลงในไข่ก่อนนำไปเจียว ช่วยเพิ่มไฟเบอร์ และสารอาหาร

     – ตำลึงไฟแดง: ผัดใบตำลึงกับกระเทียม และเนื้ออกไก่ หรือกุ้งสด เติมซีอิ๊วขาวเล็กน้อย

  1. น้ำสมุนไพรตำลึงผสม: ผสมตำลึงกับสมุนไพรอื่น เช่น มะนาว ขิง หรือมะขามเปียก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดไขมัน และล้างสารพิษ

เจาะลึกงานวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ลดไขมันของ ตำลึง 

ต้น Ivy Gourd มีสารประกอบทางเคมีที่สำคัญ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินซี วิตามินเอ แทนนิน และสารพฤกษเคมีอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดไขมันสะสมในหลอดเลือด อีกทั้ง ยังมีสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลินในร่างกาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด

งานวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ลดไขมันของตำลึง

  • การศึกษาในสัตว์ทดลอง: งานวิจัยในอินเดียพบว่า สารสกัดจากตำลึง ช่วยลดไขมันในเลือดของหนู โดยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในตับ และขจัดไขมันผ่านลำไส้
  • ฤทธิ์ลดไขมันในมนุษย์: งานวิจัยในบังกลาเทศ แสดงให้เห็นว่าสารสกัดใบตำลึงช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
  • ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ: Ivy Gourd มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและโรคอ้วน โดยลดภาวะอักเสบที่นำไปสู่การสะสมไขมัน
  • กลไกการควบคุมไขมัน: ตำลึงยับยั้งเอนไซม์ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างไขมัน และเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก และควบคุมไขมันในเลือด เช่นเดียวกันกับ ชะมวง

ที่มา: ตำลึง [2]  

วิธีขยายพันธุ์และการปลูกตำลึง

ตำลึง

ตำลึงปลูกและดูแลง่าย ขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้เมล็ด และเพาะชำเถา การปลูกด้วยเมล็ดให้เลือกเมล็ดแก่ ผึ่งให้แห้ง แล้วปลูกในดินร่วนผสมปุ๋ยคอก หยอดเมล็ดลงหลุมละ 2–3 เมล็ด เว้นระยะ 50 cm. รดน้ำให้ชุ่ม และทำค้างให้ต้นเลื้อย ส่วนการเพาะชำเถา ให้ตัดเถาแก่ยาว 15–20 cm. ปักในดินผสมปุ๋ย รดน้ำจนรากงอก แล้วจึงย้ายลงปลูก

ต้นตำลึงเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด และต้องการน้ำวันละ 1–2 ครั้ง ควรทำค้างให้ต้นเลื้อย ใส่ปุ๋ยคอกทุก 1–2 เดือน และตัดแต่งเถาที่ไม่สมบูรณ์ พร้อมกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ต้นแข็งแรง และให้ผลผลิตดี [3]

สรุป ตำลึง สมุนไพรลดไขมันที่ควรมีในชีวิตประจำวัน

สรุป ตำลึง ไม่เพียงแค่เป็นพืชริมรั้วที่หาได้ง่าย แต่ยังเป็นสมุนไพรทรงคุณค่าที่ช่วยลดไขมันในร่างกาย ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน งานวิจัยหลากหลาย ยืนยันถึงประสิทธิภาพของตำลึง ในการลดระดับไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) และป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดหัวใจ อีกทั้ง ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง

อ้างอิง

[1] medthai. (July 06. 2020). ตำลึง สรรพคุณและประโยชน์ของตำลึง 44 ข้อ. Retrieved from medthai

[2] medplant_mahidol. (2024). ตำลึง. Retrieved from medplant_mahidol

[3] stri_cmu. (2024). ปลูกตำลึงไว้ริมรั้ว. Retrieved from stri_cmu