ยินดีต้อนรับเข้าสู่ศูนย์รวมความบันเทิงชั้นนำ

กระดังงาไทย สมุนไพรหอมพร้อมประโยชน์ด้านความงาม

OBurns
, เสาร์ 28 ธันวาคม 2024

กระดังงาไทย (Cananga odorata) เป็นไม้ยืนต้นที่มีคุณค่าในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การสร้างร่มเงา เติมเต็มบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมเย็นสดชื่น ไปจนถึงประโยชน์ทางยาและการใช้งานในอุตสาหกรรม ซึ่งกระดังงาไทยไม่ได้เป็นเพียงต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความงามให้กับบ้าน แต่ยังเป็นสมุนไพรทรงคุณค่า ที่ถูกนำมาใช้ในตำรายาไทยมาตั้งแต่อดีตอีกด้วย

แนะนำข้อมูล ต้นกระดังงาไทย

ชื่อ: กระดังงาไทย
ชื่อภาษาอังกฤษ: Ylang-ylang Tree, Cananga Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cananga odorata (Lam.) Hook. f. & Thomson var. odorata
ชื่ออื่นๆ: กระดังงาใบใหญ่, กระดังงาใหญ่ (ภาคกลาง), สะบันงา, สะบันงาต้น, กระดังงา (ตรัง, ยะลา)
วงศ์: Annonaceae
ถิ่นกำเนิด: เอเชียเขตร้อน โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นกระดังงาไทย

ลำต้น: ไม้ผลัดใบขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 6 – 20 m. เปลือกสีเทา กิ่งตั้งฉากและย้อยลง กิ่งอ่อนมีขนเล็กน้อย
ใบ: ใบเดี่ยวเรียงเวียน รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 4 – 8 cm. ยาว 9-20 cm. ปลายแหลม โคนมน ขอบเรียบ หรือเป็นคลื่นเล็กน้อย
ดอก: ช่อกระจุกกึ่งช่อซี่ร่ม มี 3-6 ดอกต่อช่อ กลีบดอก 6 กลีบ เรียง 2 ชั้น บางและบิดเล็กน้อย สีเขียวเมื่ออ่อนและเปลี่ยนเป็นเหลืองเมื่อบาน หอมช่วงเย็นถึงเช้า
ผล: ผลกลุ่ม 4-15 ผล รูปไข่ถึงค่อนข้างกลม สีเขียวเมื่ออ่อน และเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำจนเกือบดำเมื่อสุก มีเมล็ด 2-12 เมล็ด
เมล็ด: รูปไข่แบน สีน้ำตาลอ่อน กว้าง 6 mm. ยาว 9 mm. เปลือกแข็ง
อัตราการเจริญเติบโต: โตเร็ว ชอบดินร่วน แสงแดดจัด น้ำปานกลาง ทนแล้ง และน้ำขังได้ดี

ที่มา: กระดังงาไทย [1]

การปลูกกระดังงาไทยในทิศตะวันตก เสริมความร่มรื่นและกลิ่นหอมให้บ้าน

ต้นกระดังงาไทย เป็นไม้ยืนต้นที่โดดเด่นทั้งด้านความสวยงามและประโยชน์หลากหลาย ดอกของกระดังงามีกลิ่นหอมชวนหลงใหล ช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่น และผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยสร้างร่มเงา ลดความร้อนในบ้าน โดยเฉพาะเมื่อนำไปปลูกในทิศตะวันตก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเรือนยอดที่กว้าง กระดังงาสามารถบังแสงแดดในช่วงบ่าย ลดอุณหภูมิภายในบ้าน ทำให้ประหยัดพลังงาน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

นอกจากประโยชน์ทางกายภาพ ดอกกระดังงายังช่วยเพิ่มความสุขให้บ้าน ด้วยกลิ่นหอมที่กระจายทั่วในช่วงเย็นถึงเช้า อีกทั้งยังเป็นไม้มงคลในวัฒนธรรมไทย เชื่อกันว่าช่วยเสริมสิริมงคลและดึงดูดโชคลาภ เช่นเดียวกับ พุดน้ำบุศย์ โดยการดูแลกระดังงาไทยก็ไม่ยุ่งยาก ต้นไม้ชนิดนี้โตเร็ว ทนแล้ง และปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศของประเทศไทย ทำให้เหมาะสำหรับปลูกเพื่อประโยชน์ทั้งในด้านความสวยงาม และสิ่งแวดล้อมในบ้านของคุณ

สรรพคุณทางยาและการดูแลสุขภาพด้วย กระดังงาไทย

แก้ลมวิงเวียน: กลิ่นหอมของดอกกระดังงา ช่วยลดอาการเวียนศีรษะและหน้ามืด พร้อมสร้างความผ่อนคลายทันทีที่สูดดม
บำรุงหัวใจ: ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเสริมการทำงานของหัวใจ ดื่มชาดอกกระดังงาแห้ง ช่วยป้องกันภาวะหัวใจอ่อนแอ
บรรเทาความเครียด: กลิ่นหอมช่วยลดความวิตกกังวล และเพิ่มความสงบ การใช้น้ำมันหอมระเหยช่วยให้หลับลึก และผ่อนคลาย
แก้อ่อนเพลีย: น้ำต้มดอกกระดังงาแห้งช่วยบำรุงธาตุ ลดอาการอ่อนเพลีย และฟื้นฟูพลังงาน พร้อมบรรเทาอาการกระหายน้ำ

ข้อควรระวังในการใช้กระดังงา

ผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้ควรทดสอบก่อนใช้น้ำมันหอมระเหย
การดื่มชาจากดอกกระดังงาควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากมีโรคประจำตัว

ที่มา: กระดังงาไทย_มีรสหอมเย็น สรรพคุณแก้ลมวิงเวียน [2]

ประโยชน์ของกระดังงาไทยและความสำคัญในอุตสาหกรรม

น้ำมันหอมระเหยในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง: น้ำมันหอมระเหยจากดอกกระดังงา (Ylang-ylang essential oil) ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและความงาม ด้วยกลิ่นหอมหวานและคุณสมบัติในการบำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และเป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำหอมแบรนด์หรู รวมถึงแชมพูและครีมนวด ที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ
การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy): น้ำมันกระดังงาโดดเด่นในด้านการบำบัดจิตใจ ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสงบ นิยมนำไปใช้ในเครื่องกระจายกลิ่น สปา และการนวดตัว โดยเฉพาะการผสมในน้ำมันพื้นฐาน เพื่อนวดบรรเทาปวด หรือเติมในอ่างอาบน้ำเพื่อผ่อนคลาย

วิธีปลูกกระดังงาไทยให้โตเร็วและออกดอกสวยงาม

วิธีการขยายพันธุ์

การเพาะเมล็ด: เก็บเมล็ดจากผลสุก แช่น้ำอุ่น 6-12 ชั่วโมง แล้วเพาะในดินร่วนผสมปุ๋ยคอก รักษาความชื้น เมล็ดงอกใน 1-2 สัปดาห์ แต่กว่าจะออกดอกใช้เวลา 3-5 ปี
การตอนกิ่ง: เลือกกิ่งสมบูรณ์ กรีดเปลือก พันด้วยมอสชุ่มน้ำ หุ้มถุงพลาสติก รดน้ำให้ชุ่ม รากงอกใน 1-2 เดือน ก่อนตัดไปปลูก ต้นที่ได้ออกดอกเร็ว (2-3 ปี)
การปักชำกิ่ง: ตัดกิ่ง 15 – 20 cm. จุ่มฮอร์โมนเร่งราก ปักลงดิน คลุมด้วยถุงพลาสติก รอรากงอกใน 1-2 เดือนก่อนย้ายลงดิน วิธีนี้ปลูกง่ายและโตเร็ว

การดูแล

การรดน้ำ: รดน้ำทุกวันในช่วงแรก หลังตั้งตัวแล้วลดเหลือ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ หลีกเลี่ยงน้ำขังที่โคนต้น
ใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทุก 2-3 เดือน และใช้ปุ๋ยสูตรเร่งดอก (8-24-24) ก่อนช่วงออกดอกเพื่อกระตุ้นดอกสวยงาม
ตัดแต่งกิ่ง: ตัดกิ่งแห้งหรือกิ่งเกินปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อควบคุมรูปทรง และกระตุ้นการแตกกิ่งใหม่
ดูแลดอก: รดน้ำพอเหมาะ ใส่ปุ๋ยเร่งดอก และเก็บดอกที่เสียออก เพื่อป้องกันเชื้อรา

ที่มา: กระดังงาไทย [3]

สรุป กระดังงาไทย ต้นไม้ที่ให้ทั้งความงามและคุณค่าครบครัน

สรุป กระดังงาไทย (Cananga odorata) เป็นมากกว่าต้นไม้ประดับบ้าน ด้วยกลิ่นหอมที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและร่มเงาที่ช่วยลดความร้อน กระดังงาไทยจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับการปลูกในทิศตะวันตกของบ้าน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีสรรพคุณทางยาอันหลากหลาย ทั้งแก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ และบรรเทาความเครียด อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและสุขภาพ